เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 2 กันยายน เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกกตูมได้เดินทางไปที่บ้านนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล บ้านกกกอก ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร และได้ถามหานางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น ภรรยาลุงพล และยังมีศักดิ์เป็นป้าของ ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือน้องชมพู่ ที่เสี ย ชี วิ ตอย่างมีเงื่อนงำบนภูเหล็กไฟ บ้านกกกอก
โดยได้นำเอกสารซึ่งคาดว่าจะเป็นหมายเรียกให้ป้าแต๋น ไปพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรกกตูม สืบเนื่องจาก ปรากฏพยานหลักฐานและพฤติการณ์ในสำนวนการสอบสวนมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าป้าแต๋น
ได้ร่วมกระทำผิดกับผู้ต้องหา โดยร่วมกันกระทำการใด ๆ แก่น้องชมพู่ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบ น้องชมพู่ ก่อนการชันสูตรเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไปตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 150 ว่า
ผู้ใด กระทำการใดๆ แก่ศ-พ หรือ สภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศ-พก่อนการชันสูตรเสร็จสิ้น ในประการที่ น่าจะทำให้การชันสูตร หรือ ผลทางคดี เปลี่ยนแปลงไป เว้นแต่จำเป็น ต้องกระทำ เพื่อป้อ งกันอันตรา ยแก่อนามัยของประชาชน หรือ เพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างอื่น
ต้องระวางโท ษ จ ำคุก ตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 2 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 10,000 - 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นการกระทำ โดยทุจริต หรือเพื่ออำพรางคดี ผู้กระทำต้องระวางโท ษเป็น 2 เท่า ของโท ษที่กำหนดไว้ สำหรับความผิดนั้น
และยังเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาตามมาตรา 83 ซึ่ง บัญญัติว่า ในกรณีความผิดใดเกิดขึ้นโดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป ผู้ที่ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันนั้นเป็นตัวการ ต้องระวางโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
แต่เจ้าหน้าที่ พบเพียงลุงพลอยู่ภายในบ้าน แจ้งว่าป้าแต๋นไปนาไม่อยู่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางกลับออกไป โดยไม่ได้ส่งหมายเรียกให้กับคนในบ้าน
อย่างไรก็ตาม ตร.ตามหา ป้าแต๋น คาดส่งหมายเรียกแจ้งข้อหา คดีน้องชมพู่ แต่พบไม่อยู่บ้าน
No comments:
Post a Comment