เรียกได้ว่าเป็นนักแสดงที่มากความสามารถอีกคนหนึ่งเลยล่ะค่ะซึ่งชาวงนี้นั้นเธอเป็นที่พูดถึงกันในโลกออนไลน์กันอย่างต่อเนื่องโดยล่าสุดใจกลับมาเป็นสีชมพูอีกครั้งแล้ว สำหรับนักแสดงสาว หมิว-สิริลภัส กองตระการ ที่ก่อนหน้านี้ ต้องเลิกรากับแฟนหนุ่มที่อยู่ต่างประเทศ เนื่องจากสถานการณ์CV ทำให้ไม่สามารถเดินทางมาเจอกัน หรืออยู่ใกล้ๆ กันได้
ท้ายที่สุดจึงยื้อความสัมพันธ์ไว้ไม่ไหว ตัดสินใจยุติสถานะคนรักและจากกันด้วยดีในที่สุด แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะมีคนที่ทำให้ใจของ สาวหมิว นั้น กลับมาชุ่มฉ่ำอีกครั้งแล้ว เมื่อล่าสุด (21 ต.ค.)เฟซบุ๊ก Tossapol Boonk Boonyatanapiwat ของหนุ่มมาดเซอร์ได้เผยโมเมนต์สุดซึ้ง ขณะทำเซอร์ไพรส์ขอเธอเป็นแฟน พร้อมกับเล่าว่า
เรารู้จักกันมานานมาก ไม่สิ ผมตั้งใจรู้จักนางมานานมากกว่าฮะ ผมเริ่มต้นคุย ผมทักไปเพราะเป็นห่วงจากที่ได้เห็นข่าวต่างๆ ผ่านโลกออนไลน์ จำได้ว่าเคยโดนประโยค พี่เป็นใคร พี่ไม่ได้มีผลอะไรกับชีวิตหนู ทำไมหนูต้องฟังพี่ นี่คือบทสนทนาครั้งแรกที่ได้วีดีโอคอลกัน
เราสองคน พูดจึงไปในทางเดียวกันแบบธรรมชาติและธรรมดา เราวีดีโอคอลคุยกันบ่อยมาก มากจนทำให้กล้าชวนนางด้วย จนนางก็ยอมไป ทั้งๆ ที่เราไม่เคยรู้จักกันแบบตัวเป็นๆ มาก่อน
จนมาถึงงานหนึ่ง เราได้ร่วมงานกันโดยบังเอิญ ผมได้มีโอกาสถ่ายและจบงานเราก็ไปทานข้าวกันต่อ ทุกอย่างน่าจะเริ่มจากวันนั้น เมื่อเดือนกว่าที่ผ่านมา หลังจากนั้นเราแทบจะตัวติดกันทุกวัน เจอและอยู่ด้วยกัน จนผ่านมาถึงวันนี้ ได้มา Staycation ด้วยกัน และด้วยความเจอกันทุกวัน ผมเลยไม่ได้มีโอกาสทำเซอร์ไพรส์ เลยต้องรบกวนน้องสะใภ้ติดต่อเป็นธุระให้สำหรับของชิ้นนี้
ครอบครัวน้องมาพักที่ชะอำวันนี้พอดี ระยะทางระหว่างทับสะแกกับชะอำก็ไปกลับห้าชั่วโมงพอดี แต่ตั้งใจแล้ว กว่าจะหลอกนางได้ว่าเดี๋ยวกลับมา ต้องยกอาม่าเข้ามาเป็นเหตุผล แต่คุ้มค่าทุกนาทีมาก ทุกกิโลเมตรที่ผ่านไป คุ้มตรงที่นางถามว่า พี่ พี่เป็นอะไร ผมตอบนางตอนเจอกันไปว่า เป็นแฟนกันนค่ะ สองปีครึ่งที่ผมใช้ชีวิตคนเดียวมา คุ้มแล้วที่ได้มาเจอหมิว Surreal but nice 21.10.2021
ขณะที่ หมิว สิริลภัส ก็ได้แชร์โพสต์ของฝ่ายชายลงในเฟซบุ๊ก Sirilapas Kongtrakarn พร้อมเขียนข้อความว่า คนที่ทำให้ยิ้มได้ ไม่ว่าเราจะเศร้าเพียงไหน ขอบคุณมากนะเฮีย ไม่เป็นน้องแล้วก็ได้ ทุ่มทุมขนาดนี้ 5555 ท่ามกลางแฟนคลับและชาวโซเชียลที่เข้ามาร่วมอวยพรและยินดีกับความรักครั้งใหม่ของทั้งคู่รักอย่างมากมายเลยทีเดียว
No comments:
Post a Comment