นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)
กล่าวถึงการเตรียมแผนสำหรับรองรับต้นทุนพลังงานที่ปรับสูงขึ้นในปี 2565 ว่า ต้นทุนพลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ ก๊าซ LNG ตอนนี้มีการปรับราคาขึ้นไปสูงสุดในรอบหลายปี
ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อต้นทุน “ค่าไฟฟ้า” เนื่องจากสัดส่วนเชื้อเพลิงก๊าซ LNG คิดเป็น 80% ของเจเนอเรชั่นทั้งหมด รองลงมาจะเป็นต้นทุน transmision ประมาณ 20 สตางค์/หน่วย
และต้นทุนการกระจายและค้าปลีก (distribution และ detail) รวม 50 สตางค์/หน่วย เมื่อรวมทั้ง 2 ต้นทุนเข้าด้วยกันก็จะคิดเป็นประมาณ 70 สตางค์/หน่วยทีเดียว
ราคา LNG ที่พุ่งขึ้นมากระทบค่าไฟแน่นอน แต่ไม่ได้ขึ้นเป็น 2-3 เท่า ค่าไฟคงต้องปรับขึ้น แต่ไม่ได้ขึ้นเยอะในสเกลที่น่าตกใจ อาจจะขึ้นประมาณ 5-10 สตางค์/หน่วย ไม่ได้ขึ้นไปถึงขนาด 2-3 บาท/หน่วย
เพราะพอร์ชั่นบางส่วนใน LNG spot ไม่ได้เยอะ แต่ยังมี LNG เทอมอย่างอื่นบวกเข้าไปอีก ถามว่า เราต้องเตรียมเงินสำรองไปชดเชยหรือไม่ คือโดยหลักการแล้ว ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงมันต้องพาสไปที่ค่าไฟฟ้าอยู่แล้ว ดังนั้นในรอบหน้า(ม.ค.-เม.ย. 2565)ค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ
หรือค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่า Ft) อาจเป็นบวกจากเดิมที่เป็น -15 สตางค์ มาโดยตลอด แต่ถ้าเราบาลานซ์หรือหาเงินส่วนอื่นมาช่วยชดเชย ค่า Ft ก็อาจขึ้นไม่มากนัก” นายคมกฤชกล่าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการลดหรือชะลอการขึ้นค่า Ft ที่จะบวกเข้าไปในราคาค่าไฟฟ้านั้น อาจใช้วิธีให้การไฟฟ้าช่วยรับภาระไปก่อนบางส่วน หรือทั้งหมดก็ได้
ขอบคุณที่มาจาก prachachat
No comments:
Post a Comment