
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวและเหตุการณ์ที่ยังคงเป็นที่น่าสนใจของชาวโซเชียลเป็นอย่างมากซึ่งก็ได้ผ่านมาแล้วกว่า 1 เดือนแต่ก็ยังคงหาคำตอบของเรื่องนี้กันต่อไป ทั้งนี้คดีมีพิรุธเป็นอย่างมากจากคำให้การของคนบนเรือ ว่าแตงโมก่อนพลัดตกได้มีการทำธุรส่วนตัวอยู่ท้ายเรือจนพลาด


ซึ่งในความเป็นจริงจากที่เจ้าหน้าและผู้เฝ้าติดตามคดีนี้ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ถ้าแตงโมจะนึกพิเรนทร์ทำเช่นนั้น ล่าสุด นายชนบท ศุภศรี อดีตผู้พิพากษา ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก กฎหมายชนบท ถึงทิศทางของคดีแตงโม ระบุว่า ด้วยความเคารพ


การชั่งน้ำหนักพยาน หลักฐานของศาล หากมีการสนทนาระหว่างิจริง และพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำของกระติกและโบไว้แล้วในชั้นสอบสวน มีข้อสังเกตุดังนี้1.เป็นการสนทนากันหลังเกิดเหตุสด ๆ ร้อน ๆ ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้มีโอกาสปั้นเรื่องเสริมแต่งใดๆ ทั้งสิ้น


2.โบจะกลายเป็น ประจักษ์พยาน ในส่วนที่มีการพูดคุยระหว่างโบกับกระติก ไม่ใช่พยานบอกเล่า 3. จึงไม่จำเป็นต้องมีเสียงการสนทนาของบุคคลทั้งสองแต่อย่างไร 4. เมื่อกระติกยังไม่ได้ตกเป็นผู้โดนกล่าวหา การให้การกับพนักงานสอบสวนหากไม่ได้ให้การไปตามความเป็นจริง


กระติกก็มีสิทธิถูกตั้งข้อหาให้การเท็จในภายหลังได้ 4. ส่วนการสนทนาของกระติกและโบจะสอดคล้องหรือขัดแย้งกันอย่างไรนั้น หากมีการนำตัวกระติกและโบไปขึ้นเบิกความต่อหน้าศาล ศาลก็จะใช้


4.1 หลักแห่งความเป็นจริง 4.2 หลักแห่งความสมเหตุสมผล 4.3 "หลักแห่งความขัดแย้ง 4.4 หลักแห่งความเป็นไปได้ ว่าใครพูดความจริงกันแน่ครับ ฟ้ามีตาครับน้องแตงโม



No comments:
Post a Comment