
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 เว็บไซต์เอเชียวัน เผยรายงานว่า เกิดเหตุการณ์ชวนอึ้งขึ้นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ชื่อว่า Rasa Istimewa Waterfront ในย่านวูดแลนด์ส ของประเทศสิงคโปร์ เมื่อคืนวันที่ 21 กรกฎคม ที่ผ่านมา มีลูกค้ากลุ่มใหญ่จำนวน 16 คน มากินอาหารที่นี่ โดยสั่งอาหารชุดใหญ่พิเศษ 2 ชุด พร้อมด้วยเครื่องดื่ม รวมบิลค่าอาหารเป็นเงิน 1,188 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 31,000 บาท

ทางผู้จัดการร้านวัย 52 ปี เผยว่า หลังจากกินอาหารเสร็จ ทางร้านก็นำของหวานไปเสิร์ฟให้กับลูกค้ากลุ่มนี้ ทว่าภายหลังจากที่พวกเขากินของหวานเสร็จ ก็พากันลุกขึ้นแล้วเดินออกจากร้านไปโดยพร้อมเพรียง ซึ่งในขณะนั้น ทางพนักงานเข้าใจว่า ลูกค้าได้ชำระเงินค่าอาหารแล้ว
นอกจากนี้ ในคืนดังกล่าวยังมีลูกค้าจำนวนมาก มีพนักงานลาหยุด เหลือเพียง 4 คน ที่เข้าทำงาน จึงไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด จนกระทั่งเมื่อสรุปบัญชีหลังจากปิดร้าน ถึงได้ทราบว่า ลูกค้ากลุ่มใหญ่จำนวน 16 คนนั้น ไม่ได้จ่ายเงินค่าอาหารแม้แต่รายการเดียว
ทั้งนี้ ทางลูกค้ากลุ่มดังกล่าวไม่ใช่ลูกค้าประจำ และไม่ได้จองล่วงหน้า ทำให้ทางร้านไม่มีช่องทางใด ๆ ที่สามารถติดต่อพวกเขาได้ จึงทำได้เพียงรอให้พวกเขากลับมาจ่ายเงิน แต่ผ่านไป 5 วันก็ยังเงียบกริบ ไม่มีข่าวคราวอะไรจากพวกเขาเลย
ต่อมา ฟรานซิส จู เจ้าของร้านอาหารวัย 47 ปี เผยกับรายงานของเอเชียวัน กล่าวว่า ทางร้านพยายามหาช่องทางติดต่อพวกเขา มีทั้งโพสต์ลงโซเชียลเพื่อให้คนช่วยตามหา แต่ก็ไม่สำเร็จ สุดท้ายเขาจึงตัดสินใจที่จะยกผลประโยชน์ให้แก่กลุ่มลูกค้าดังกล่าวไป โดยเชื่อว่าพวกเขาน่าจะ "ลืมจ่าย"
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากมีรายงานเผยแพร่ไปในสื่อออนไลน์ ก็ได้กลายเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์กว้างขวาง หลายคนรู้สึกประหลาดใจ โดยเข้าใจว่า "การลืมเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่นี่มาตั้ง 16 คน จะไม่มีใครสงสัยเลยหรือว่า แท้จริงแล้วใครเป็นคนจ่าย"
กระทั่งหลังจากนั้นไม่นาน ทางเจ้าของร้านเผยว่า มีคนในกลุ่มลูกค้าดังกล่าวติดต่อมาเพื่อจะชำระบิลดังกล่าว ซึ่งจู เผยว่า มีหลายครั้งที่ลูกค้าลืมจ่ายเงิน หรือเข้าใจผิดคิดว่าจ่ายแล้ว แต่สุดท้ายพวกเขาก็กลับมาจ่ายหมด และที่ผ่านมา บิลค่าอาหารก็ไม่เคยสูงมากเช่นนี้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ท้ายที่สุดทางร้านก็ได้รับเงินค่าอาหารเป็นที่เรียบร้อย โดยพวกเขาขอโทษสำหรับความผิดพลาด และอธิบายเหตุผลว่า "มีความเข้าใจกันผิดในกลุ่ม ต่างคนต่างคิดว่า มีคนจ่ายเงินไปแล้ว"
No comments:
Post a Comment