ขุดแฉตัวจริงแรง ไม่ได้เรียบร้อยเหมือนในจอ!? เปิดบ้าน ‘ณิชา ณัฏฐณิชา’ ลบคำดูถูกโดนไล่ออก รร. เผยช่วงชีวิตก่อนเจอ ‘โตโน่’ กินข้าวทั้งน้ำตา
ล่าสุดมีเพจหนึ่งออกมาแฉนักร้องหนุ่มถูกแฟนบงการ และมีคนเข้าไปคอมเมนต์ว่าเป็นเรา “จริงหรอ ก่อนจะมามีพี่ผู้จัดการบอกว่ามีข่าวนี้มานะ งงเหมือนกัน แต่ว่าก็ไม่เป็นไรหรอก
คิดว่ามันไม่ใช่วาระสำคัญหรอกครับในชีวิต แต่ที่แน่ๆเลยมันไม่ใช่ คือหนึ่งตอนนี้โตโน่บอกผมบงการชีวิตตัวเองครับ” ครั้งแรกของนางเอกสาว ‘ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์’
เปิดเผยว่าเธอเองก็เคยมีอาการอยู่ในภาวะซึมเศร้า ซึ่งเกิดจากการทุ่มเททำงาน อินกับบทบาทจนไม่สามารถดึงตัวเองออกมาได้ กินข้าวอยู่ รู้สึกอยากร้องไห้ก็ร้องออกมา
แม่ก็ถามว่า น้องมีเรื่องเครียดอะไรหรือเปล่า มีอะไรที่ไม่มีความสุขไหม ซึ่งความจริงคือไม่มีเลยค่ะ ชีวิตทุกอย่างแฮปปี้ การทำงานก็ไม่ได้กังวลอะไร”
ณิชาเล่าถึงสาเหตุที่เกิดภาวะซึมมาจาก หลังจากปิดกล้องละครเสน่ห์นางงิ้วต่อด้วยเรื่องเพลิงพรางเทียน กินเวลาถ่ายทำเกือบ 2 ปี พอปิดกล้องไปทั้งสองเรื่อง
ระยะเวลานานมากๆ ยังคงทำงานอยู่ “ณิชา ณัฎฐณิชา” โดนโยงข่าวแฉนางเอกหน้าหมวย ตัวจริงแรงส์ เป็นสก๊อย กลายเป็นเรื่องดังในโซเชียลเรื่องหนึ่ง
กับกรณีดราม่าที่นางเอกสาว “ริชชี่ อรเณศ” ต้องเจอ จนทำเอาแฟนๆ ออกมาร่วม saveริชชี่ จนแท็กติดเทรนด์ ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งอ้าง
ว่าเคยอยู่โรงเรียนเดียวกันออกมาร่วมปกป้องริชชี่ แต่กลับมีการพาดพิงถึงนางเอกร่วมช่องอีกคนว่า หน้าตาดูหมวยๆ แต่ตัวจริงแรงมาก ระดับสก๊อยเรียกแม่
เอะอะนัดหลังโรงเรียน วีรกรรมเพียบ จนถูก รร. เชิญออกตอนจบ ม.4 พร้อมใบ้ว่าเคยเล่นละครแนวเหนือๆ ซึ่งก็มีหลายคนคาดเดา
โดยเผยว่าสิ่งที่คนโพสต์ต้องการจะสื่อน่าจะหมายถึงเธอ แต่ยืนยันไม่เคยนัดใครแน่นอน ยอมรับตอนเด็กๆ อาจจะมีงอแง ทำตัวผิดระเบียบไปบ้าง
แต่ไม่ถึงขั้นถูกเชิญตัวออกจากโรงเรียน พร้อมบอกเธอไม่เคยบอกว่าเป็นคนเรียบร้อยอยู่แล้ว และไม่สนใจกับอดีตที่ผ่านมา ถือว่าเป็นอีกหนึ่งบทเรียน
ที่ทำให้เรียนรู้และเติบโตขึ้น ได้เห็นทวิตเตอร์แล้วค่ะ ก็ตลกดี เขาคงหมายถึงเราแหละ เพราะทุกอย่างที่เขาบอกคือหมายถึงตัวเราหมดเลย น่าจะพูดถึงเรา
แต่เราไม่เคยนัดตบใครหลังโรงเรียนแน่นอน และไม่เคยถูกเชิญออกจากโรงเรียนด้วย เป็นคนลาออกเอง เพราะต้องทำงานในวงการบันเทิงเลยต้องย้ายโรงเรียน”
“ที่บอกว่าบุคลิกในจอแตกต่างจากตัวจริง ตัวจริงสก๊อยเรียกแม่เลยนั้น ไม่รู้ว่าเขารู้จักเราจริงๆ หรือเปล่า แต่ถ้าเขาจะเชื่อแบบนั้น มันก็เป็นเรื่องของเขา
ไปบังคับให้เขาเชื่อไม่ได้ อีกอย่างเราไม่เคยพูดเลยว่าเราเป็นคนเรียบร้อย แต่มันก็แล้วแต่ความเชื่อว่าเขาจะมองเราเป็นแบบไหนมากกว่าค่ะ”
“ตอนนั้นยอมรับว่าไม่ใช่เด็กเรียนที่เรียบร้อย ก็มีกลุ่มเพื่อน เราเคยทำผิด เคยโดนลงโทษ แต่ไม่เคยนัดตบหลังโรงเรียนแน่นอน ถามอาจารย์ได้เลย
เหตุการณ์ทะเลาะก็ไม่มี แต่ถ้าถามว่ามีเถียงกันกับเพื่อนไหม มันก็มีอยู่แล้วปกติ เราเป็นเด็กคนหนึ่งที่ตอนเด็กๆ อาจจะยังไม่รู้เรื่อง อะไรผิด อะไรไม่ควร
ถึงต้องมีคุณครูที่คอยสอนเรา ดังนั้นถ้าจะบอกว่าเราเป็นเด็กเรียบร้อย ก็ไม่ได้เรียบร้อยค่ะ ถามว่ากลัวไหมถ้าจะมีคนออกมาแฉหรือขุดคุ้ยประวัติอีก ก็แล้วแต่เลยค่ะ
เราไม่เคยทำถึงขนาดที่โรงเรียนจะต้องเชิญเราออกค่ะ ส่วนจะดำเนินคดีกับคนที่ออกมาแฉไหม ก็คิดว่าไม่ค่ะ เพราะมันเป็นเรื่องตั้งแต่สมัยเด็กแล้ว
รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องที่หนักหนากับชีวิตเรา คนเราล้วนเคยทำผิดพลาดมาทุกคน เล็กน้อยบ้าง ตอนเด็กๆ เราอาจจะงอแงบ้าง ผิดกฎโรงเรียนเล็กๆ น้อยๆบ้าง
แต่สำหรับหนูมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ เด็ก โตขึ้น ได้เรียนรู้ ก็แค่นั้นเอง”
No comments:
Post a Comment