
วันนี้แอดจะมาขอสรุปประเด็นร้อนที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้ให้เพื่อนๆฟัง ที่มาที่ไป ของเรื่องและบทสรุปเผื่อใครยังไม่รู้ข้อแรกเลย อยู่ดี ๆ “พส. ชาตรี เหมพันธุ์” จอว. ไทยในรัสเซียก็ไลฟ์ด่า “แพรรี่” (อดีตคือ พส.ไพรวัลย์) โดยใช้สรรพนามเรียกว่า “อ..อี แพรรี่” กล่าวหาว่าสึกมาแล้วเนรคุณต่อพส. เนรคุณต่อวัดที่เคยให้ข้าวให้น้ำ
หลังจากนั้นก็มีคนส่งไลฟ์นี้ไปให้แพรรี่ดู แพรรี่ก็ไลฟ์ด่ากลับ ตอบโต้ว่าตนมีสิทธิ์ที่จะพูด คนที่ให้ข้าวให้น้ำพระคือชาวบ้านไม่ใช่วัด โปรดช่วยสำเหนียกด้วยนะว่ากินข้าวชาวบ้านกันทั้งนั้นแหละ
แพรรี่โต้กลับว่าตนมีข้อมูลเกี่ยวกับ พส. ต่างแดนรูปหนึ่งเพียบ ทั้งเรื่องยืมทรัพย์สิน เรื่องการให้ทุนนักศึกษาต่างแดน เรื่องถ่ายรูปโชว์ของสงวน ตนมีหลักฐานทั้งสลิปและภาพถ่าย เพราะมีคนพร้อมใจกันส่งมาให้เพียบ พร้อมเปิดเผยถ้าเขายังไม่หยุด
ต่อมา พส. ชาตรีโพสต์ขอโทษแพรรี่ คราวนี้เปลี่ยนสรรพนามมาเรียก “น้องแพรรี่” อุ๊ยยยยย….บอกว่าคนเราเมื่อผิดต้องกล้ารับผิด ขอโทษที่ก้าวล่วง เห็นด้วยกับความเห็นและทัศนคติของน้องทุกประการ สี่เท้ายังรู้พลาดนักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ขอให้น้องแพรรี่จงให้อภัยเขา
แต่เรื่องไม่จบจ้าาาา…เพราะมีทนายความคนหนึ่งไปแจ้งความแพรรี่ที่ด่า พส.ชาตรี บอกว่าเป็นการดูหมิ่น พส.ทั้งคณะ ทำให้ได้รับความเสื่อมเสีย อ้างว่าตามกฎหมายแล้วการที่ พส.ชาตรี หมิ่นแพรรี่ถือเป็นความผิดส่วนตัว แต่แพรรี่ด่า พส. ถือว่าผิดกฎหมาย พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ทำคนวิจารณ์กระหึ่ม
หลังจากนั้นทางรายการ “โหนกระแส” ได้เชิญแพรรี่ กับ อ.จตุรงค์ จงอาษา (นักวิชาการพส.) มาออกรายการและโฟนอินทนายความคนดังกล่าว เกิดการปะทะคารมกัน( อันนี้คงต้องไปหาฟังเองนะ บอกได้คำเดียวว่าเดือด)
1- อยู่ดี ๆ “พระชาตรี เหมพันธุ์” เจ้าอาวาสวัดไทยในรัสเซียก็ไลฟ์ด่า “แพรรี่” (อดีตพระไพรวัลย์) โดยใช้สรรพนามเรียกว่า “อีแพรรี่” กล่าวหาว่าสึกมาแล้วเนรคุณต่อศาสนา เนรคุณต่อวัดที่เคยให้ข้าวให้น้ำ
2- มีคนส่งไลฟ์นี้ไปให้แพรรี่ดู แพรรี่ก็ไลฟ์ด่ากลับ ตอบโต้ว่าตนมีสิทธิ์ที่จะพูด คนที่ให้ข้าวให้น้ำพระคือชาวบ้านไม่ใช่วัด สำเหนียกด้วยนะว่ากินข้าวชาวบ้านกันทั้งนั้นแหละ
3- แพรรี่โต้กลับว่าตนมีข้อมูลเกี่ยวกับพระต่างแดนรูปหนึ่งเพียบ ทั้งเรื่องยืมเงินฆราวาสแล้วไม่คืน เรื่องการให้ทุนนักศึกษาต่างแดน เรื่องถ่ายรูปโชว์ของลับส่งให้สีกา ตนมีหลักฐานทั้งสลิปโอนเงินและภาพถ่าย เพราะมีคนพร้อมใจกันส่งมาให้เพียบ พร้อมเปิดเผยถ้าพระชาตรีไม่หยุด
4- พระชาตรีโพสต์ขอโทษแพรรี่ คราวนี้เปลี่ยนสรรพนามมาเรียก “น้องแพรรี่” บอกว่าคนเราเมื่อผิดต้องกล้ารับผิด ขอโทษที่ก้าวล่วง เห็นด้วยกับความเห็นและทัศนคติของน้องทุกประการ สี่เท้ายังรู้พลาดนักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ขอให้น้องแพรรี่จงให้อภัยและอโหสิกรรม
5- แต่เรื่องไม่จบเพราะมีทนายความคนหนึ่งไปแจ้งความแพรรี่ที่ด่าพระชาตรี บอกว่าเป็นการดูหมิ่นคณะสงฆ์ให้ได้รับความเสื่อมเสีย อ้างว่าตามกฎหมายแล้วการที่พระชาตรีหมิ่นแพรรี่ถือเป็นความผิดส่วนตัว แต่แพรรี่ด่าพระถือว่าผิดกฎหมาย พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ทำคนวิจารณ์กระหึ่ม
6- รายการ “โหนกระแส” เชิญแพรรี่ กับ อ.จตุรงค์ จงอาษา (นักวิชาการพุทธศาสนา) มาออกรายการและโฟนอินทนายความคนดังกล่าว เกิดการปะทะคารมกันเลือดสาด (ต้องไปฟังเองนะคะ)
No comments:
Post a Comment