
นางเอกขวัญใจคนไทยตลอดกาล “แอน-สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์” แม้อายุจะขึ้นเลข 5 แล้ว แต่ความเเซ่บของเธอก็ไม่เป็นสองรองใคร
และเรื่องที่จำที่สุดสำหรับ “แอน สิเรียม” จนถึงวันนี้ แอน ก็ยอมเปิดบ้านให้ชมเป็นครั้งแรก นอกจากพื้นที่จะกว้างขวางแล้ว ยังมีทั้งสระว่ายน้ำ
สนามเทนนิส ฟิตเนส และบ้านหลายหลังตั้งอยู่รวมกัน แอน สิเรียม : แอนเป็นคนที่ Positive Thinking นะ มองในเเง่บวกสำหรับชีวิตที่ผ่านมา
ไม่ว่าจะเป็นการแต่งงาน หลายๆ คนก็จะพูดว่าเป็นผู้หญิงที่ผ่านสามี แต่งงาน 2 ครั้ง 3 ครั้งอะไรแบบนี้ เรื่องข่าวเยอะแยะมากมาย เรื่องลูก
เป็นข่าวในเชิงลuทั้งหมด ซึ่งมันก็ไม่ได้เป็นความทรงจำที่ดีสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่แอนก็มองว่าคนเราบางทีจังหวะชีวิตหรือแม้แต่การตัดสินใจมันก็
มีความผิดพลา๑กันเกิดขึ้น แอนก็จะให้อภัยตัวเองตลอดเวลา แล้วก็บอกว่าไม่เป็นไรนะ แต่มันก็เป็นความทรงจำที่ไม่ดีเท่าไหร่ในเรื่องความรักตรงนั้น
โชคดีว่าเราได้อยู่กับคนปัจจุบัน ซึ่งเขาก็เป็นคนที่เข้าใจชีวิต ทำไมเราถึงเลือกที่จะนิ่ง ? แอน : คือเป็นคนยุคเก่ามั้งคะ ยังปรับตัวไม่ได้ จริงๆ แล้วต้องพูด
คือมันยังเป็นความคิดยุคก่อนอยู่ แล้วเราก็ถามคนที่อยู่รอบข้าง ครอบครัวก็บอกว่ายิ่งพูดก็เหมือนยิ่งไปต่อคำ แต่ถ้าเป็นสมัยนี้พูดก่อนได้เปรียบ เราก็เลยไม่อยาก
ที่จะไปพูดอะไร รู้สึกไม่อยากอยู่ประเทศไทยเลย อยากไปใช้ชีวิตอิสระเสรี ทำอะไรในส่วนที่เป็นสิทธิของตัวเองที่เราพึงกระทำได้ มีคนมองว่าที่เราแต่งงานถึง 3 ครั้ง
เพราะขา๑ความรักไม่ได้? “คนทุกคนไม่มีใครที่ไม่อยากจะมีความรัก เพราะความรักมันแตกต่างกันออกไป เรารักลูกอีกอย่าง รักสามีอีกอย่าง รักแฟนก็อีกอย่าง
ของแอนแต่งงานครั้งที่ 1 เราก็จบกันด้วยดี เราก็มีลูกด้วยกัน คนที่สองไม่ประสบความสำเร็จเพราะเราใช้เวลาศึกษากันน้อย ส่วนคนที่สามหลังจากนี้คงมีไม่ได้แล้วล่ะ
เพราะอายุก็จะ 50 แล้ว เอาจริงๆ แอนก็ไม่อยากจะจดทะเบียนสมรสเป็นเรื่องเป็นราว แต่สามีบอกว่ามันไม่ยุติธรsมสำหรับเขา เพราะเขาเองก็ยังไม่เคยแต่งงานมาก่อน
ตอนนี้แต่งงานกันมา 4 ปีกว่าแล้ว” 3 รัก 3 รูปแบบ แตกต่างกันเยอะไหม? “แตกต่างกันที่เราค่ะ เพราะความรักของเรามันอยู่กันคนละยุคคนละสมัยแล้ว
รักครั้งแรกเราอยู่ในยุคที่เราเป็นวัยรุ่นหน่อย ณ ปัจจุบัน รักครั้งสุดท้ายนี้เราอายุเยอะแล้ว วิธีคิดก็ต่างกัน เรารู้ว่าจะรักยังไง อะไรที่เขาชอบหรือไม่ชอบก็มานั่งคุยกัน
มีเหตุมีผลมากขึ้นเพราะโตแล้ว ไม่ใช่ว่าหน้าหล่ออย่างเดียว” “ทุกวันนี้ก็ยังรู้สึกผิดอยู่ ตอนนั้นลูกก็ต้องการเรา เราต้องไปอยู่กับลูกที่ต่างประเทศด้วย”
No comments:
Post a Comment