ตัดขาดน้องสาว ชาตินี้ไม่นับญาติ!
ว่าที่เรือนหอ ‘กีฟ ดราภดา’ พร้อมแต่งแฟนพระเอก หลังถูกแฟนคลับค้านไม่เหมาะสม
เป็นอีกหนึ่งนางร้ายปากแดงที่แจ้งเกิดจากวิกหมอชิตที่ตอนนี้ได้ผันตัวเป็นอิสระและได้คบหากับแฟนหนุ่มพระเอกดังช่อง 7
สำหรับสาวกีฟ ดราภดาและบูม กิตตน์ก้อง ที่ตอนนี้ความรักของทั้งคู่ได้เดินทางไปปได้อย่างสวยงามและดูราบรื่นไม่มีที่ติด
แต่เมื่อครั้งก่อนนั้นสาวกีฟได้เกิดดราม่าใหญ่ตัดขาดครอบครัวขึ้นมาแล้ว 1 ครั้ง หลังสาวกีฟยืนยันชัดเจนว่าไม่ปลื้มหนุ่มพอร์ชอย่างแรง
เพราะก่อนหน้านี้ฝ่ายชายไม่ให้เกียรติน้องสาว แถมยังเคยหักอกจนน้ำตาเช็ดหัวเข่ามาแล้ว แต่สุดท้ายน้องสาวก็ไม่เข็ด กลับไปคบกันอีกรอบ
ซึ่งรอบนี้สาวกีฟถึงขั้นลั่นวาจา ไม่ขอยุ่ง อยากรีเทิร์นกันก็ตามสบาย ต่างคนต่างอยู่ กีฟ ดราภดา ได้เผยว่า ตอนนี้ตัดขาดความสัมพันธ์ความเป็นพี่เป็นน้องกันแล้ว
ไม่มีให้แม้กระทั่งโอกาส ต่อจากนี้ไม่ขอนับญาติด้วยตลอดชีวิต ตัวเขาเองก็ไม่เคยติดต่อกลับมา ข่าวคราว ไอจี ก็ไม่ได้ติดตามแล้ว
แต่ก็พอทราบบ้างเวลามีเพื่อนมาบอก อย่างไม่นานมานี้เขาก็มาขอให้คุณแม่ไปทานข้าวด้วย โอเค คุณแม่ก็ไป เพราะเขาขอมา แม่ไม่ได้ชวน
ถ้าถามว่ายังเป็นห่วงน้องอยู่มั้ย สาวกีฟบอกว่า ไม่ได้สนใจอะไรแล้ว คือเวลาเรารักใครเราก็รักมาก ห่วงมาก แต่ถ้ามันมาถึงจุดหนึ่ง มีเหตุให้เราต้องทิ้ง
เราก็ทิ้งเลย ต่อให้มีสายเลือดเดียวกัน ผูกพันกันมา 10 ปีก็ไม่ช่วยอะไร จริง ๆ สาเหตุหลักไม่ค่อยเกี่ยวกับเรื่องพอร์ช เกี่ยวกับนิสัยส่วนตัวของเด็กคนนั้นมากกว่า
สิ่งที่เขาทำมันรุนแรงกับสภาพจิตใจเราเหมือนกัน และก็เคยให้โอกาสไปแล้วหนึ่งครั้ง แล้วความสัมพันธ์ของคุณพ่อคุณแม่กับเกรซเป็นอย่างไรบ้าง
สาวกีฟบอกว่า ปกติกีฟก็เจอคุณพ่อคุณแม่บ่อย แต่อีกคนก็ตามเทศกาล ตอนนี้ย้ายไปอยู่ไหนแล้วก็ไม่รู้ คุณพ่อคุณแม่ก็เข้าใจ เราเป็นคนมีเหตุผลมากพอ
ไม่ใช่ทำอะไรตามอารมณ์ อนาคตจะมาขอโทษ ขอโอกาส ไม่ต้องมาเจอกันก็ได้ ถ้าทำกันขนาดนี้แล้วก็ไม่ต้อง ต่างคนต่างอยู่ก็โอเคแล้ว ก็ดูมีความสุขดี
ส่วนความรักของเธอกับแฟนหนุ่มก็ไปได้สวยแต่แม้จะรักกันดีแต่ก็มีแฟนคลับบางส่วนที่เคยออกมาคัดค้านบอกว่าทั้ง 2 ไม่เหมาะสมเพราะสาวกีฟดูแรงและร้าย
แต่ด้านแฟนหนุ่มได้บอกว่าเขาได้เลือกแล้ว และไม่มีทางเอาคนไม่ดีมาเป็นแม่ของลูกแน่ ๆ ตัวตนที่แท้จริงของกีฟนั้นไม่เหมือนที่คนอื่นเห็น
เรียกว่าทั้งคู่ก็ได้จับมือกันแน่นมาก ๆ จริง ๆ ค่า เอาเป็นว่าใครเป็นแฟนคลับคู่นี้ก็เตรียมตัวรอฟังข่าวดีของทั้งคู่ได้เลยไม่นานเกินรอแน่ ๆ
No comments:
Post a Comment