
แม้รวย 10,000 ล.ยังไม่สน เลือกเส้นทางวงการ
คฤหาสน์ 13 ชั้น ‘เอวา ปวรวรรณ’ อยู่ 22 คนยังเหลือๆ หลังพาว่าที่ลูกเขย ‘ไทยนครพัฒนา’ เจอพ่อ
พ่อเพิ่งรู้ลูกถูกแฟนหลoกเงินแถมเจ้าชูนoกใจอภัย7ครั้ง จากไม่สนับสนุนต้องยอมรับลูกสาวพิสูจน์ตัวเองในวงการไม่พึ่งความรวยพ่อแม่
เปิดใจทำไมไม่มาช่วยครอบครัวทำธุรกิจหมื่นล้าน เอวา หกฉากครับจารย์ หรือ เอวา ปวรวรรณ ล่าสุดควงคุณพ่อ สุภชัย วีระภุชงค์
ดูแลธุsกิจทั้งผลิตยาหลายแบรนด์ที่โด่งดังมายาวนาน อาทิ ซาร่ๅ ทิwฟี่ และยังส่งออกต่างประเทศ รวมทั้งธุsกิจโรงแรมทั้งในและต่างประเทศ
คุณพ่อมีลูกสาว 4 คน มีเอวา คนเดียวที่ไม่สนใจเรื่องธุsกิจแต่รักเรื่องการแสดงตั้งแต่เด็กจนเข้าวงการบันเทิงตอนนี้
คุณพ่อ เผยว่า เอวามีความฝันตั้งแต่ 10 ขวบ ผมไม่รู้ทำไมลูกคนนี้อยากจะไปเรียนแฟชั่นเดินแบบ อยากเรียนบัลเล่ต์การแสดง
ต่เราอ่านเขาไม่ออก ทั้งที่เราเป็นพ่อเป็นแม่ คุณแม่เขาอาจจะรู้ แต่ผมไม่ค่อยได้อยู่กับลูกๆ จนมารู้ตอนเขาเริ่มจะเข้าวงการ
เขามาขอ เราทำธุsกิจก็ไม่อยากสนับสนุนให้ลูกๆมาทำวงการดารา อากงคือคุณพ่อผมก็ไม่สนับสนุน แต่ทนความดื้อเขาไม่ไหว เขาดื้อมาแต่เด็ก
ไห้เยอะ ก็เป็นความฝันของเขา ทำไมเราไม่สนับสนุน วันนี้ผมก็ยอมรับแล้วอยากให้เขาสานฝัน เราก็คงต้องทำหน้าที่พ่อในการสนับสนุนความฝันของลูก
แต่จะเตือนลูกตลอดว่ามนุษย์มีความผิดพลาดได้ตลอด วันนี้เอวาดีใจเขามีแฟนคลับเยอะ วันหนึ่งถ้าเขาโดนตำหนิเขาจะเครียดเขาต้องเตรียมยอมรับให้ได้ สุขกับทุกข์มันมาด้วยกัน
ถามพ่อมีเงินทำไมไม่ซื้อโฆษณๅให้ลูกเป็นนางเอกเลยก็ได้ พ่อเอวา กล่าวว่า อย่างที่บอกว่าไม่ได้สนับสนุน แต่วันนี้เอวาได้พิสูจน์เขามีความศรัทธามุ่งมั่น
เขาทำได้มีแฟนคลับตามจากร้อยคนพันคน มีแฟนคลับตามในไอจี ยูทูบ จนวันนี้ทะลุ 3 แสน เขาพิสูจน์ตัวเอง 7-8 เดือน พวกเราก็ต้องยอมรับเขา
และอยากขอบคุณ นิกกี้ (ณฉัตร) และ โอ๊ต (ปราโมทย์) ที่ช่วงส่งเสริมเขาด้วย จะบอกเขาว่าใครทำดีด้วยต้องรู้จักกตัญญู
เอวา กว่าจะมาเล่น หกฉากครับจารย์ กว่าจะถึงวันนี้ เจ้าตัว บอกว่า เดินเข้าไปแคสงานเอง หลายงานคุณพ่อก็ไม่รู้ ทำมา 3-4 ปี ไม่ได้งานเยอะมาก ร้องไห้ทุกครั้ง
ตอนนี้คุณพ่อก็ยังไม่พาหนูไปฝากเล่นละครช่องไหน หนูก็ต้องดิ้นรนเองต่อไป คนไม่รู้มาคอมเมนต์ว่าหนูใช้เส้น คนไม่รู้ว่าหนูมีแรงกดดันจากครอบครัว
เวลาไปแคสงานไม่ผ่านทุกครั้งจะรู้สึกว่าเขาไม่ชอบเราเพราะเราไร้ค่าหรือเปล่า เราไม่สวยไม่เด่นพอ จนต้องเติมพลังให้ตัวเองสู้
No comments:
Post a Comment