
ทำเนียบ ‘ดาราเอาตัวรอด’ ย้ายค่ายหากินเพื่อปากท้อง
เมื่อก่อนดารา-นักแสดง จะต้องรอให้หมดสัญญาก่อน แล้วค่อยติดปีกโบยบินหนีไปซบอกค่ายอื่น แต่ปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องทนรอให้สัญญาหมดบางคนขอฉีกสัญญาจ่ายค่าทดแทนหลักล้านเพื่อแลกกับอิสระเสรีไปอยู่บ้านใหม่หาเงิน หรือบางคนก็ตัดขาดกับบ้านหลังเดิมแบบไม่เผาผีก็มีให้เห็นถมไป
ซึ่งเรื่องการไม่ต่อสัญญา ขอเป็นนักแสดงอิสระ หรือไปเซ็นสัญญาสังกัดใหม่เริ่มมีให้เห็นกันมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะทีวีบ้านเราตอนนี้มีหลายช่องให้ได้ทำมาหากิน เพิ่มโอกาสหาเงินเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้มากขึ้นกว่าเดิม ว่าแต่จะมีดาราคนไหนที่หนีตายไปอยู่ช่องอื่น หรือเป็นนักแสดง
อิสระกันบ้างไปดูเลย เริ่มต้นที่หนุ่ม อ้น กรกฎ ที่เพิ่งจะฉีกสัญญายอมจ่ายเงิน 1 ล้านบาทเพื่อแลกกับอิสรภาพในการออกมาอยู่กับสังกัดใหม่อย่างช่อง 7 สีปิดตำนาน อ้น เดอะสตาร์ ไปเรียบร้อยโดยงานนี้เจ้าตัวบอกว่า จากกับต้นสังกัดเก่าด้วยดี ไม่มีปัญหา แต่ที่อยากจะออกมาเป็นเพราะอยากจะได้รับ
โอกาสและทำงานใหม่ๆ ให้กับตัวเอง ยืนยันเสียงแข็งว่าไม่ได้น้อยใจบ้านหลังเดิมที่ไม่ค่อยป้อนงานอย่างแน่นอนมาต่อกันที่หนุ่ม ตูมตาม ยุทธนาก็เป็นอีกคนจากค่ายเอ็กแซ็กท์ที่หนีตายจากการรับงานแค่กับช่องวัน หันมารับงานกับช่องอื่นได้ ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าหนุ่มตูมตามจะไม่ต่อสัญญา
กับสังกัดเดิม และหันมาซบอกช่อง 7 สี แต่สุดท้ายก็เป็นแค่ข่าวลือเท่านั้น เพราะหนุ่มตูมตามยังคงสังกัดค่ายเดิมแต่เพิ่มเติมคือสามารถรับเล่นละคร
ให้กับค่ายอื่นได้โดยละครเรื่องแรกที่หนุ่มตูมตามได้ชิมลางก็คือเรื่อง คุณหญิงบานเบอะ ทางช่อง 8 งานนี้หนุ่มตูมตามยืนยันว่าที่ต่อสัญญากับช่องเดิม
แต่เป็นสัญญาที่รับงานที่อื่นได้ด้วยตัวเองนั้น ไม่ใช่เพราะน้อยใจทางเอ็กแซ็กท์อย่างแน่นอน เพราะตนก็ยังมีละครกับต้นสังกัดเดิมอยู่ ที่ทำเช่นนี้แค่เป็นการเพิ่มโอกาสให้กับการทำงานให้ตัวเองไนกี้ นิธิดล ก็เป็นพระเอกลูกหม้ออีกคนของช่องวัน ที่ยังเหลือสัญญากับต้นสังกัดเดิม แต่ได้เจรจาพูด
คุยกับเอ็กแซ็กท์ ขอรับงานกับที่อื่นด้วย โดยยังมีสัญญากับบ้านเดิมอยู่ และหลังจากที่เข้าไปพูดคุยตกลงกับผู้ใหญ่ในค่ายแล้ว ไนกี้ก็ได้ดอดไปร่วมงานกับช่อง8 กับละครเรื่องเพลิงรักไฟมาร โดยมีทางเอ็กแซ็กท์ช่วยดูและสกรีนบทให้ในช่วงเวลาที่สัญญายังเหลือ งานนี้หนุ่มไนกี้ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากับต้นสังกัดเดิม
จากกันด้วยดี ไม่ได้น้อยใจต้นสังกัดเดิมที่ดองงานละครหรือไม่ป้อนงานให้ นางเอกสาว เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา ก็เป็นอีกคนที่ไม่ต่อสัญญากับต้นสังกัดเดิมอย่างช่อง 3 ทั้งๆ ที่ตอนนั้นฝีมือการแสดงของสาวเอสเธอร์ถือว่าใช้ได้ ช่องมีงานละครให้เล่น แต่พอสัญญาหมด นักแสดงสาวกลับไม่ต่อสัญญา
ผันตัวเองไปเป็นนักแสดงอิสระดีกว่า ซึ่งหลังจากที่เป็นอิสระ สาวเอสเธอร์ก็โดดไปร่วมงานกับช่องวันทันที และได้รับบทนางเอกจากช่องดังกล่าวและก็แจ้งเกิดจากละครเรื่อง เล่ห์รตี เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก มีโฆษณาและงานอีเวนต์ให้ออกเพียบส่วนนางเอกสาวเบอร์ต้นๆ ของวงการอย่าง พลอย
เฌอมาลย์ ก็เป็นอีกคนที่ไม่ต่อสัญญากับทางช่อง 3 หลังจากที่ทำงานร่วมกันมานานหลายปี ซึ่งก่อนหน้านี้ในการต่อสัญญากับช่อง 3 สาวพลอยขอกับทางช่องว่าอยากจะเล่นละครแค่ปีละเรื่อง และเมื่อสัญญาหมด ก็ไม่ขอต่อสัญญาอีก โดยเจ้าตัวให้เหตุผลว่าโตขึ้น อยากจะรับงานเอง และจากกับสังกัดเก่าด้วยดีไม่ได้มีปัญหาแต่
อย่างใด โดยงานชิ้นแรกหลังจากที่เป็นนักแสดงอิสระของสาวพลอยคือ ซีรีส์เดอะ ไรท์เตอร์ ความรักครั้งสุดท้าย กับช่อง GMM25 นั่นเอง เชียร์ ฑิฆัมพร นางเอกลูกหม้อวิก 7 สี โดนมองว่าเป็นนางเอกตัวเลือกที่ไม่ค่อยมีผู้จัดคนไหนอยากได้มาร่วมงาน แต่นางเอกสาวก็ยังอดทนทำงานกับช่อง 7 ถึง 13 ปี จนสัญญา
หมดลง และหลังจากที่ตัดสินใจว่าจะอยู่หรือไป สาวเชียร์ก็ได้ข้อสรุปที่ว่า จะขอเป็นนักแสดงอิสระ เล่นได้ทุกค่าย ทุกช่อง ยังไม่คิดสังกัดค่ายไหน ซึ่งเจ้าตัวยืนยันไม่ได้มีปัญหากับช่อง 7 แต่อยากจะเป็นนักแสดงอิสระมากกว่านั่นเอง และหลังจากที่ประกาศเรื่องไม่ต่อสัญญา สาวเชียร์ก็มารับงานละครหลังเป็นนักแสดงอิสระกับช่อง 3 ทันทีกับละครเรื่อง เดอะคิวปิด และโผล่ตามรายการของช่องต่างๆ ให้แฟนๆ ได้เห็นกันทางด้านนักแสดงสาว เอมี่ กลิ่นประทุม หลังจากแต่งงาน
กับพระเอกหนุ่ม ซี ศิวัฒน์ ก็ถูกลดบทบาทลง งานละครน้อยลง จึงอาจเป็นสาเหตุทำให้สาวเอมี่ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับค่ายกันตนา แจ้งความประสงค์จะขอเป็นนักแสดงอิสระ ก่อนจะหันไปร่วมงานกับทางช่อง 8 ที่ยังป้อนบทนางเอกให้ได้เล่น ถึงจะไม่เปรี้ยง แต่ก็ยังมีงานละครให้ได้เล่นอยู่ ถือว่าเป็นที่น่าพอใจสำหรับการเป็นนักแสดงอิสระของสาวเอมี่เป็นนักแสดงอิสระมานาน แต่ยังคงเล่นละครให้กับช่อง 7 เพราะมีสัญญาใจที่ดีต่อกัน จนกลายเป็นโลโก้ของช่องไปอีกคน สำหรับนักแสดงสาว เอมมี่ มรกต แต่เพราะเริ่มโตมากขึ้น มีความคิดอยากจะพัฒนาฝีมือการแสดงของตัวเอง สาวเอมมี่เลยลุกขึ้นมาคว้าโอกาสจากผู้ใหญ่ที่หยิบยื่นโอกาส
ดีๆ ให้ โดยเจ้าตัวบอกว่าการมาร่วมงานกับช่อง 3 ไม่ได้ตามใครมา หลังจากที่มารับงานละครกับช่อง 3 ในเรื่องปะการังสีดำ ก่อนจะไปสวมหน้ากากปลาหมึกร้องเพลงในรายการเดอะแมสซิงเกอร์ จนถูกคว้าตัวมานั่งแท่นพิธีกรประจำรายการ ห้องข่าวบันเทิง ของช่อง Workpointปิดท้ายด้วยนางเอกสาว พีค ภัทรศยา ลูกหม้อของค่าย GDH ที่โด่งดังและเติบโตในวงการบันเทิงจากการเล่นหนังกับค่ายดังมาหลายสิบปี จนกระทั่งปีที่ผ่านมา สาวพีคได้สร้างความเซอร์ไพรส์ให้แฟนๆ ด้วยการมาเซ็นสัญญากับทางช่อง 7 นาน 3 ปี และเริ่มการทำงานด้วยละครเรื่อง โซ่เสน่หา ประกบ พอร์ช ศรัณย์ พระเอกเบอร์ต้นๆ ของช่อง ซึ่งการมาซบ
ช่อง 7 สีของสาวพีคนั้นไม่ได้เกี่ยวกับว่าเธอน้อยใจต้นสังกัดที่ไม่ค่อยป้อนงาน เพียงแค่อยากจะลองทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน จบกับต้นสังกัดเดิมแบบสวยงาม ไร้ปัญหาการไม่ต่อสัญญา ฉีกสัญญา ไปซบค่ายอื่น หรือขอเป็นนักแสดงอิสระของเหล่านักแสดง อาจจะถูกมองว่าเป็นคนเนรคุณ แต่บางครั้งพวกเขาเหล่านั้นอาจจะมีสาเหตุส่วนตัวในการทำอย่างนี้ แต่ตราบใดที่ยังทำอาชีพสุจริต สร้างความสุขให้กับคนดูอย่างนี้ เราก็ขอสนับสนุนและอวยพรให้ทุกๆ คนประสบความสำเร็จกับเส้นทางใหม่ที่ตัวเองเลือกเดินก็แล้วกัน
.
No comments:
Post a Comment