
กลายเป็นอีกเรื่องราวที่ได้เป็นประเด็น เมื่อ 2 ยายที่เป็นเพื่อนบ้านกัน ต่างก็สู้กันด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ฝ่ายหนึ่งบูชาเจ้าแม่พญางิ้วดำอธิษฐานให้มีคนมาช่วยหลังคู่กรณีเปิดน้ำพุบูชาพญานาคทั้งวันทั้งคืนจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ส่วนคู่กรณีโต้พ่อปู่พญานาคก็ต้องอยู่คู่กับน้ำ และเปิดแค่ช่วงบางเวลาเท่านั้น
ยายอายุ 82 ปี เล่าว่า ตนอาศัยบ้านหลังนี้มานานถึง 15 ปี ก่อนหน้านี้อยู่ด้วยความเงียบสงบมาตลอด จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้ว บ้านฝั่งตรงข้ามได้ก่อสร้างรูปปั้นพญานาคและมีการติดตั้งน้ำพุ และไฟประดับต่างๆ และเปิดน้ำพุตั้งแต่สร้างเสร็จเป็นเวลานานกว่า 1 ปีแล้ว
โดยการเปิดน้ำพุในตอนกลางวันนั้น ตนยังพอรับได้และไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่เปิดพอมาเปิดตอนกลางคืน ซึ่งบริเวณนี้จะเงียบมาก เสียงน้ำพุจะค่อนข้างดังและประกอบกับเสียงของเครื่องปั๊มน้ำ ทำให้นอนไม่ได้เลย เคยแจ้งทางผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ อบต.แล้ว แต่เหมือนจะไม่ได้รับการแก้ไขอะไรเลย ตนต้องกินยานอนหลับเกือบจะทุกคืน จนต้องบูชาเจ้าแม่พญางิ้วดำเพื่ออธิษฐาน ขอให้มีใครเข้ามาช่วยจนมีผู้สื่อข่าวเข้ามา
ขณะที่ยาย อายุ 78 ปี คู่กรณีที่บูชาพญานาค เล่า ตนปลูกบ้านหลังนี้มากว่า 30 ปีแล้ว เสียงน้ำพุดังกล่าวมาจากบริเวณที่ตนสร้างรูปปั้นพ่อปู่พญานาค ตอนแรกรูปปั้นนี้อยู่บริเวณหน้าบ้าน แต่เพิ่งจะย้ายมาด้านหลังบ้านเมื่อปีที่แล้วนี้เอง ส่วนเสียงที่ดังนั้นตนถามว่า ดังเกินไปตรงไหนแค่เสียงน้ำพุ และไม่มีเสียงจากเครื่องปั๊มน้ำแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้เขาเคยไปร้องเจ้าหน้าที่ อบต.มาแล้ว และมีเจ้าหน้าที่ อบต.เข้ามาตรวจสอบแล้ว เขาก็ดูแล้วเสียงไม่ได้ดังเกินที่กฎหมายกำหนด ส่วนตัวแล้วคิดว่าตนทำแต่ความดี พ่อปู่พญานาคจึงคอยคุ้มครองให้ได้รับแต่สิ่งดีๆ และน้ำพุนี้ตนก็เปิดเฉพาะช่วงเช้าเท่านั้น ไม่ได้เปิดทั้งวันทั้งคืนตามที่เขาบอก เพราะตนก็ต้องพักผ่อนเหมือนกัน
ก่อนหน้านี้เขาเคยเอาขยะมาทิ้งที่หน้าบ้านของตน เคยบอกเตือนแล้ว เขาบอกทิ้งได้เพราะเป็นที่สาธารณะ ตอนนี้ไม่อยากใส่ใจปล่อยเขาไปทำอะไรก็ได้แบบนั้น เวรกรรมมองไม่เห็น แต่มีจริง จะไม่ให้ตนเปิดน้ำพุเลยก็ไม่ได้เพราะพ่อปู่เป็นพญานาคก็ต้องคู่กับน้ำ และมีเปิดไฟประดับบ้างเป็นบางวัน ตนอยู่ของตนแบบนี้ดีกว่าไม่เอามาใส่ใจก็ไม่ทุกข์ เขาอยากทำอะไรก็ทำไป
No comments:
Post a Comment