
ยอมอยู่ในกรงทองพลตำรวจ
‘ยุวเรต ศรุตานนท์’ สวีท ‘บิ๊กสันต์’ ห่าง 41 ปี เข้าได้ดีกับภิริยาท่านอื่น
นาทีนี้คงไม่มีผู้หญิงคนไหนจะฮอตได้เท่า เรต-ยุวเรต ศรุตานนท์ หญิงสาววัย 31 ปี ผู้ตกลงไปในบ่อทองของนายตำรวจใหญ่ พล.ต.อ สันต์ ศรุตานนท์ หรือบิ๊กสันต์ ได้อีกแล้ว

หลังจากที่ข่าวคราวเงียบหายไปสักพัก สำหรับ ยุวเรต ศรุตานนท์ ที่เปลี่ยนนามสกุลมาใช้นามสกุลของ พล.ต.อ สันต์ ศรุตานนท์

และกลายเป็นข่าวเมื่อปลายปีที่แล้ว จากกรณี คุณหญิงเกิดศิริ ศรุตานนท์ ต้องออกมาบอกว่า ตนเองคือภรรยาที่แท้จริง ถูกต้องตามกฎหมาย

และกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในแวดวงสังคมเป็นอย่างมาก จนกระทั่งล่าสุด ที่ผ่านมา มีภาพคู่ระหว่าง ยุวเรต ศรุตานนท์ กับ พล.ต.อสันต์ ศรุตานนท์ ร่วมงานฉลองจนเป็นจุดสนใจของสังคมอีกครั้งหนึ่ง

โดย ยุวเรต เปิดใจกับทีมข่าว ถึงการปรากฎตัวคู่ ด้วยเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ว่า คือจริงๆใช้ชีวิตปกติ ตั้งแต่ก่อนเป็นข่าว และหลังเป็นข่าว

ไม่ได้คำแบ็ค รีเทิร์น ไม่มีอะไรใหม่ และไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แต่ว่าเมื่อวานไปงาน ก็เลยมีภาพคู่ปราฎอีกครั้ง

แต่จริงๆชีวิตนั้นก็ปกติค่ะ ส่วนคำถาม ว่า กลัวไหมว่าจะกลับมาเป็นกระแสให้ถูกพูดถึงอีก “ไม่ค่อยกังวลใจในตรงนั้นแล้ว

เพราะอะไรที่ผ่านมาก็ผ่านไป เพราะในชีวิตคนคนหนึ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอยู่แล้ว ก็เลยไม่ค่อยได้คิดอะไรตรงนั้น

สำหรับการดูแล พล.ต.อ.สันต์ ตอนนี้ดูแลอย่างต่อเนื่องเป็นปกติ โดยส่วนตัวแล้วก็จะดูแลผู้ใหญ่ทุกคน ไม่ใช่เพียงดูแลท่านสันต์เท่านั้น

รวมถึงภรรยาท่านอื่นของท่านสันต์ด้วย ยุวเรต ยังได้อัพเดทการธุรกิจส่วนตัว ว่าขณะนี้ทำธุรกิจเมคอัพ ซึ่งเป็นการลงทุนด้วยเงินตัวเองคนเดียว

ไม่ได้มีหุ้นส่วน และก็ได้มีการปรึกษา พล.ต.อ.สันต์ ตลอด ซึ่งท่านเองก็ให้คำแนะนำว่าอายุยังน้อย ทำอะไรมีความสุขก็ทำเลย

โดยก่อนทำได้ศึกษาไลน์เมคอัพเพิ่มเติม มีโค้ชที่ปรึกษาหลายท่าน กระแสตอบรับดี และเป็นไปแบบค่อยๆโต และตอนนี้ซุ่มทำผลิตภัณฑ์สกินแคร์ ส่งให้กับภรรยาท่านอื่นๆใช้

เพราะส่วนใหญ่แต่ละท่านก็ใช้ระดับไฮเอนด์ อยู่แล้ว คงไม่ได้มาใช้เมคอัพของตนแบบเบสิก พื้นฐาน ส่วนคุณหญิงเกิดศิรินั้น ก็ไม่ได้ส่งให้ใช้ และไม่เคยปรึกษาการทำธุรกิจ เพราะว่าไม่เคยติดต่อกันเลย

ยุวเรต กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ตนเองไม่อยากเป็นกระแสของสังคม ยิ่งช่วงนี้มีละครเรื่องเมียหลวง กำลังมา เดี๋ยวเกรงว่าสังคมจะนำเรื่องของตนไปโหนกับกระแสของละครอีก

เพราะส่วนตัวแล้วก็ใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้คิดอะไรมาก อยากมองที่ครอบครัวของตัวเองดีกว่า เพราะอยากให้คนที่เรารักในครอบครัวมีความสุข

No comments:
Post a Comment