
เปิดประวัติ ‘สส.ชาดา ไทยเศรษฐ์’ ชื่อนี้รู้จักกันทั้งอุทัยธานี
ล่าสุดวันที่ 13 ก.ค.66 เวลา 09.30 น. นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา สั่งบรรจุวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา
สมัยสามัญประจำปี 2566 ณ ห้องประชุ้มชั้น 2 สภาผู้แทนราษฎร เพื่อโหวตนายกฯ หรือการพิจารณาให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่ง
นายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 272 ในช่วงหนึ่งของการประชุมสภา นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.
พรรคภูมิใจไทย อภิปรายแสดงจุดยืนกลางสภาฯ ไม่รับรองและสนับสนุน กรณีพรรคก้าวไกล มีนโยบายแก้ไขกฎหมาย มาตรา 112
พร้อมเปิดประเด็นถาม 7 พรรคการเมืองที่เหลือว่ามีจุดยืนอย่างไรบ้างพร้อมทั้งกล่าวถึงประเด็นการเลือกตั้งที่พรรคก้าวไกลได้คะแนน
14,438,851 คะแนน ว่า ” 14 ล้านเสียงไม่ใช่เทวดา” “คนไทยไม่ได้มีแค่ 14 ล้าน คนไทยไม่ได้มีแค่ 25 ล้าน ท่านต้องเป็นนายกฯ
ของคน 60 กว่าล้านคน พลังของประชาชนมันยิ่งใหญ่สำหรับพวกเรา แต่ท่านอย่าหลงระเริงคำว่า 14 ล้านเสียง มันไม่ถึง 20% มันไม่ใช่
เรื่องชี้ขาดของประเทศนี้ มันเป็นเรื่องที่ท่านต้องดูและคนทุกคน””เขาบอกว่าฝั่งนู้นฝั่งประชาธิปไตย แล้วฝั่งผมมาจากไหน ผมก็เลือกตั้งมา
เหมือนกัน ฝั่งโจรหรอ เป็นโจรก็ยอม เป็นโจรที่รักชาติ รักสถาบัน เป็นโจรที่ปกป้องบ้านเมืองนี้และปกป้องสถาบัน ด้วยหัวใจ ด้วยเลือด
เนื้อของผม” ทั้งนี้สำหรับประวัติสส.ชาดา เกิดวันที่ 7 มิ.ย. 2504 ในครอบครัวมุสลิมปาทาน ที่อพยพจากปากีสถานมาตั้งรกรากที่อุทัย
ธานี ตั้งแต่รุ่นปู่ โดนปู่ของชาดา เป็นพอค้าเนื้อรายใหญ่ของอุทัยธานี แต่รุ่นพ่อ “เดชา ไทยเศรษฐ์” เป็นพ่อค้าซุง แต่หันมาค้าเนื้อ
ส่งออกต่างประเทศ และขายเนื้อในอุทัยธานี ชีวิตในวัยเด็กของ “ชาดา” นับว่า ลำบาก เมื่ออายุ 7 ปี ประมาณปี 2511 พ่อของเขาถูกยิง
เสียชีวิต ถัดมาอีก 7 ปี แม่ของชาดา นางปาลี้ ก็มาถูกยิงเสียชีวิตอีกคน และในอีก 7-8 เดือนต่อมา พี่ชาย ชัยยศ ที่มารับช่วงค้าเนื้อ
ก็ถูกยิงเสียชีวิตอีกคน เหลือ ชาดากับมนัญญา ผู้เป็นน้องสาว ชาดา เริ่มธุรกิจขายเนื้อและโรงฆ่าสัตว์ ที่ปู่และพ่อเขาทำกิจการมา ด้วยเงิน 6,000 บาท ที่หยิบยืมมาจากลูกค้าคนหนึ่ง”ผมเริ่มค้าเนื้อ ตอนอายุ 14 ปี ผมก็ไม่มีลูกจ้าง มีแต่เพื่อนรุ่นเดียวกัน คนอื่นไม่มี มีแต่คนใน
ตลาดอุทัยฯ ช่วงนั้นผมลำบากพอสมควร เราเด็กอายุ 14 ได้เพื่อนวัยรุ่นในตลาดที่เรียนมาด้วยกันมาช่วยกันทำงานซึ่งอยู่กันแบบไม่มีผู้ใหญ่
สักปีเศษก็มีกลุ่มนักเลงเข้ามารังแก มีอยู่วันหนึ่งเก็บเงินค่าเนื้อมา มาถึงปุ๊บก็หยิบเงินเราไปเฉยๆ ผมก็ไม่ยอม ก็มีการขัดขืน เพราะถ้าเราปล่อย
ให้เขารังแกเรา เราก็จะถูกรังแกแบบนี้ไปเรื่อยๆ ปี 2519-2520 เมื่อก่อนเงิน 5-6 หมื่นมากนะ พอเขาเห็นว่าเราไม่กลัวเขา เขาก็เลยไม่กล้า
มา” ก่อนหน้านั้น ปี 2546 ชาดา ถูก กล่าวหาจ้างวานฆ่า สมเกียรติ จันทร์หิรัญ เลขานุการของ นายประแสง มงคลศิริ ส.ส.พรรค ไทยรักไทย แต่ปี 2548 ศาลยกฟ้องปี 2554 ชาดา ถูกลอบยิง ขณะเดินทางไปเขาใหญ่ ส่งผลให้ “ฟารุต” ลูกชายเสียชีวิต ขณะที่
ชาดา นั่งอยู่บนรถอีกคันหลังการยึดอำนาจ ชาดา ถูกเจ้าหน้าที่บุกค้นบ้าน 3 ครั้ง ตามยุทธการตรวจค้นบ้านผู้มีอิทธิพล รวมทั้ง ถูกกรมสิบ
สวนคดีพิเศษ เข้าไปตรวจค้นพื้นที่ของชาดา ที่ทำเป็นเหมืองแร่มูลค่าหลายร้อยล้านบาท ถูกตำรวจตรวจค้นขบวนรถ ขณะกลับจากงานศพ
ในการเลือกตั้งปี 2562 ชาดา ย้ายจากพรรคชาติไทย มาสังกัด ภูมิใจไทย และได้รับเลือกตั้ง พร้อมหลานชาย เจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์
ภายหลังเลือกตั้ง ชาดา มีชื่อเป็น รมช.มหาดไทย แต่ชีวิตที่ถูกกล่าวหาวา เป็นผู้กว้าวขวาง ผู้มีอิทธิพล ชื่อ ชาดา ถูกหลบไปเป็น
รมช.เกษตรและสหกรณ์ แต่เมื่อถึงมือบิ๊กตู่ กลับไม่ปลื้ม จึงมีชื่อ มนัญญา เข้ามาแทน
No comments:
Post a Comment