หนูแหม่ม เผยสาเหตุแท้จริง แต่งงานมานาน 23 ปี แต่ไม่มีลูกสักที - Yakdung Khaw

สดๆร้อนๆ

Friday, July 19, 2019

หนูแหม่ม เผยสาเหตุแท้จริง แต่งงานมานาน 23 ปี แต่ไม่มีลูกสักที



เป็นอีกหนึ่งคู่รักตัวอย่างที่หลายคนชื่นชอบ สำหรับ หนูแหม่ม สุริวิภา และ บ๊อบบี้-โรเบิร์ต พูนพิพัฒน์ ซึ่งตอนนี้ หนูแหม่ม และ บ๊อบบี้ ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมากว่า 23 ปี แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ทั้งคู่ต้องเจอกับปัญหาและอุปสรรคมากมายเลยทีเดียว



ล่าสุดทั้งคู่ ได้มาเปิดใจผ่านทางรายการ ดัง ถึงเส้นทางความรักว่า "เราแต่งงาน 23 ปีแล้ว ที่คนมองว่าคู่เราสร้างภาพ ก็ไม่รู้สิ แล้วแต่คนจะบัญญัติมันว่าสร้างภาพ แต่จริงๆ เราอยากให้ทุกคนเห็นภาพที่ทุกคนพึงพอใจอยากจะเห็น ภาพที่มันทะเลาะกันอยู่ในบ้าน ให้มันเกิดขึ้นแต่ในบ้าน เราจะเอาภาพนี้ให้คนอื่นเห็นได้ไง มันก็ต้องมีทะเลาะตบตี มีทุกรูปแบบจะเอาเวอร์ชั่นไหน ถามว่าทะเลาะกันทุกวันไหม ทะเลาะกันเรื่องอะไรบ้างดีกว่า เราสามารถทะเลาะกันได้ทุกเรื่อง คือน้ำเสียงที่พูดกัน บางทีมันทำให้เราขึ้น ปรับอยู่นานมากกว่าจะเข้าใจว่าอันนี้มันเป็นธรรมชาติของเขา เราแก้เขาไม่ได้ต้องแก้ที่เรา"

ทั้งนี้พิธีกรได้ถามต่อว่าแล้วทั้งคู่มารักกันตอนไหน ด้าน "บ๊อบบี้" กล่าวว่า "มาเมืองไทยครั้งแรกไม่มีเพื่อน พ่อให้ไปรู้จักกับยุทธการขยับเหงือก แล้วในนั้นมีผู้ชายหมดเลย มีผู้หญิงอยู่คนเดียว หน้าตาเหมือนฝรั่งเขาน่าจะพูดภาษาอังกฤษได้ ถามว่าจีบนานไหมมันบังเอิญมาก จบโรงเรียนบริษัทส่งมาที่เมืองไทยให้ทำงานอยู่พัทยา ไม่มีแฟน ไม่มีเพื่อน มีแต่แก๊งนี้ บังเอิญแหม่มเปิดร้านดอกไม้ข้างๆ บ้านผม แถวพหลโยธิน"



จากนั้น "หนูแหม่ม" ได้กล่าวต่อว่า "ตอนนั้นพี่รู้สึกเฉยๆ มากเลย เหมือนเพื่อนคนหนึ่งที่เดินมาแนะนำเพื่อนอีกคนให้รู้จัก แต่คนที่ไม่เฉยคือกลุ่มยุทธการทั้งหมด ทุกคนก็ยุ จริงๆ พี่บ๊อบบี้มีความน่ารักในตัวเขาอยู่แล้ว สองเขามีความอบอุ่น ให้เกียรติ แล้วเขาพร้อมที่จะปกป้อง"

ต่อมาพิธีกรได้ถามต่อว่าแล้วครั้งแรกที่รู้ว่ามีลูกไม่ได้ ด้าน "บ๊อบบี้" กล่าวว่า "เราแต่งงานเสร็จแล้ว เรากลัวมากเลยว่าแหม่มจะท้อง ตอนนั้นแหม่มทำงาน 7 รายการ เดี๋ยวจะกระทบงาน"

จากนั้น "หนูแหม่ม" ได้กล่าวต่อว่า "ตอนนั้นอายุ 36 ปี เราเริ่มปล่อยให้เป็นธรรมชาติ ปล่อยได้สัก 1-2 ปี มันเริ่มแบบไม่ติด ไปหาหมอ ทำตั้งแต่สเต็ปที่เบาสุด จนถึงผสมในหลอดแก้ว ทำทุกอย่างตอนแรกมันก็ติด เราก็กรี๊ดกันทั้งบ้าน พอ 3 เดือนก็ดิ่งลง มันทำแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ตอนนั้นเสียใจทั้งคู่เลย เราร้องไห้ในบ้านจนไม่รู้จะร้องไห้ยังไง บ๊อบบี้เห็นทุกครั้งเวลามันเจ็บ ตอนใส่ก็เจ็บ ตอนแท้งก็เจ็บ เจ็บเหมือนรถบดถนน มันบดมดลูกเรา พี่เคยแท้ง ขณะที่แท้ง หมอบอกว่ามันขูดไม่ได้ ต้องรอ ทุกอย่างมันเกาะหมดแล้ว แต่ว่ามันไม่มีหัวใจมันฝ่อ แต่ว่าการฝ่อก็คือการแท้ง แต่วิธีการแท้งมันก็มีตั้งหลายแบบ เราก็โดนมาแล้วทุกแบบทั้งขูดออก เขี่ยออก ให้ออกเอง เพราะว่าพี่ทำเป็นสิบครั้ง จนแบบพี่นั่งบนรถเวลาแท้งพี่ต้องโหนไว้แล้วก้นเนี่ยพี่ลอยจากจากเบาะตลอดเวลา เพราะมันเจ็บมาก มันบีบไปหมด พี่อายุ 40-41 พี่ก็เลยมานั่งคุยกันบอกว่าบ๊อบบี้เรามาถึงจุดที่เราต้องหยุดเปล่า ถ้าเราฝืนมันมากเกินไป บางทีลูกออกมาขาดกับเกิน ทีนี้เรามานั่งคุยกันเมื่อเราต้องเผชิญกับปัญหานั้นเราพร้อมไหม แล้วเราจะเดินไปด้วยกันยังไง แล้วใครจะตายก่อน ถ้าเผชิญพร้อมกันเราจะสู้ แต่ถ้าไม่เราจะหยุด บ๊อบบี้ก็เลยบอกว่าผมเห็นว่าแหม่มเจ็บมาก"

ซึ่งพิธรกรได้ถามต่อว่า "หนูแหม่ม"กับ "บ๊อบบี้"อยากมีลูกมาก ในฐานะที่เราเป็นภรรยา เราจะช่วยอะไรได้บ้าง "หนูแหม่ม" กล่าวว่า "พี่รู้ว่าบ๊อบบี้อยากมีลูกมาก แล้วครอบครัวเขาก็คาดหวังว่าอยากให้มี พี่รู้สึกว่าคงหมดทางเราแล้วแหละ พี่บอกบ๊อบบี้ว่าไออนุญาตให้ยูมีเมียใหม่ จะเป็นน้อยหรือเป็นหลวงแล้วแต่เธอเลย เธอจัดการกับมันได้เลย ฉันจะอยู่ในพื้นที่ของฉัน ในวันนั้นพี่พูดจริงๆ แต่พี่ไม่รู้ว่าถ้าเกิดขึ้นจริงๆ พี่จะทำได้ไหม แต่รู้สึกว่าพี่ยอมรับอันนี้ได้"

อย่างไรก็ตามพิธีกรได้ถามต่อว่าถ้าวิทยาศาสตร์ไม่ได้ไสยศาสตร์ไหมไปขอ "หนูแหม่ม" กล่าวว่า "ตอนนี้ถ้าพี่ได้ลูกแล้วพี่ต้องไปแก้บนนะ พี่ต้องตั้งโต๊ะแก้บนกลางสนามหลวง เพราะพี่จำไม่ได้ว่าขออะไรไป แล้วพี่สัญญาอะไรไว้บ้าง"

No comments:

Post a Comment