ลูกหลาน ทนไม่ไหว รพ. ทำพ่อทรุดหนัก ถูกงูเห่ากัด 4 วันไม่ฉีดเซรุ่ม แต่ให้ยาธาตุน้ำขาวมากินแทน (คลิป) - Yakdung Khaw

สดๆร้อนๆ

Saturday, July 20, 2019

ลูกหลาน ทนไม่ไหว รพ. ทำพ่อทรุดหนัก ถูกงูเห่ากัด 4 วันไม่ฉีดเซรุ่ม แต่ให้ยาธาตุน้ำขาวมากินแทน (คลิป)



วันที่ 19 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ตรัง ได้รับการร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากนางสุพิศ ทองแท้ อายุ 49 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 ต.ทุ่งต่อ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง พร้อมด้วยบรรดาญาติพี่น้องว่าผู้เป็นพ่อของตนเอง คือ นายจำรัส ซุ่นสั่น อายุ 68 ปี โดนงูเห่ากัดบริเวณตาตุ่มข้อเท้าด้านขวา เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งในขณะนี้ผู้เป็นพ่ออาการทรุดหนักนอนอยู่ห้องไอซียู รพ.ศูนย์ตรัง

นางสุพิศกล่าวว่า วันที่เกิดเหตุ พ่อไปเก็บมะนาวที่ปลูกอยู่บริเวณข้างบ้านแล้วโดนงูเห่าตัวขนาดเท่ากับหลอดไฟนีออนกัดบริเวณตาตุ่มขาด้านขวา ตนจึงได้ทุบตีงูเห่าตัวดังกล่าวจนตาย พร้อมกับนำผ้ารัดขาของพ่อบริเวณเหนือบาดแผล กระทั่งนำไปส่งโรงพยาบาล พร้อมกับแจ้งให้แพทย์ทราบว่าโดนงูเห่ากัดมา แพทย์จึงได้ล้างบาดแผลพร้อมให้ยาฆ่าเชื้อและยาแก้ปวด ก่อนจะให้นอนพักที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการ ซึ่งตนเองถามว่าทำไมถึงไม่ฉีดเซรุ่มแก้พิษงูให้ แพทย์และพยาบาลกลับให้เหตุผลว่า ผู้ป่วยไม่มีอาการบ่งชี้ว่าโดนงูกัด โดยไม่มีอาการง่วงซึม หรือตาเบลอ

โดยระหว่างที่นอนดูอาการ พ่อมีอาการปวดท้องและแน่นหน้าอกอย่างรุนแรง ถึงขั้นนอนไม่หลับ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้นำยาธาตุน้ำขาวมาให้ดื่ม กระทั่งมาถึงวันที่ 4 ก.ค. พ่อเริ่มมีอาการทรุดหนัก บาดแผลเริ่มเปื่อย เนื้อรอบบาดแผลเริ่มตาย ก่อนแพทย์จะให้น้องไปเบิกเซรุ่มแก้พิษงูมาฉีดให้ และนำตัวส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์ตรังในวันเดียวกัน ก่อนจะตัดแต่งเนื้อที่เน่าเปื่อยออกไป และรักษาอาการมาโดยตลอด พ่อเริ่มทรุดเป็นระยะ เริ่มเหม่อลอย พูดคุยไม่รู้เรื่อง เจ็บปวดทั้งร่างกายตลอดเวลา หายใจไม่ออก

จนต้องเข้าห้องไอซียูเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้พ่อไม่รับรู้อะไรแล้ว โดยแพทย์ระบุว่ามีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ติดเชื้อในสมอง ปอดติดเชื้อ สมองเริ่มตายไปบางส่วน และกำลังจะเข้าสู่ภาวะไตวาย พร้อมแจ้งให้ญาติ ๆ ทุกคนเข้าใจว่าพ่อน่าจะไม่รอดแล้ว

ในวันนี้ตนเองพร้อมด้วยญาติ ๆ ได้ไปยื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.ตรัง เพื่อเรียกร้องและร้องเรียนขอความเป็นธรรมใน 3 เรื่อง คือ 1.ให้โรงพยาบาลแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะไม่ยอดฉีดเซรุ่มให้ตั้งแต่ต้น 2.การให้บริการไม่เสมอภาคกัน 3.ชี้แจงเหตุผลให้ชัดเจนทำไมถึงไม่มีการฉีดเซรุ่ม และชี้แจงวิธีการรักษา

ตนเองและครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อแพทย์แจ้งว่าให้ทุกคนทำใจ ตนเองไม่ได้กล่าวโทษโรงพยาบาลศูนย์ตรังแต่อย่างใด เพราะเข้าใจว่าได้รักษาตามอาการของผู้ป่วยในระยะหลัง แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมโรงพยาบาลแรกถึงไม่ได้ฉีดเซรุ่มแก้พิษงูให้ตั้งแต่เกิดเหตุ แต่จะมาฉีดให้ในวันที่ 4 ไปแล้ว

คลิป



ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว

No comments:

Post a Comment