เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ต่างประเทศได้มีการเผยแพร่เรื่องราวหนึ่ง โดยระบุว่า.. อาหลิวนักศึกษาหนุ่มวัย 20 ปี เขารักในบรรยากาศอันเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติ จึงทำให้เขามักใช้เวลาว่างไปนั่งตกปลาอยู่ที่ริมน้ำใกล้มหาวิทยาลัย
วันหนึ่งขณะที่เขากำลังนั่งตกปลาไปเพลินๆ ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนเรียกจากฝั่งว่า "ช่วยด้วย ช่วยด้วย มีคนจมน้ำ!!" เขาเห็นดังนั้นจึงมองไปในแม่น้ำ ปรากฏว่าเห็นเด็กอายุประมาณ 7-8 ขวบ กำลังจมน้ำอยู่
ขณะที่เขาหยิบเสื้อขึ้นมาใส่ก็รู้สึกว่าเงินในกระเป๋าเสื้อนั้นหายไปหมด เขาเดินค้นไปทั่วแต่ก็ไม่พบ สักพักแม่ของเด็กที่จมน้ำที่เขาช่วยไว้ เห็นเข้าจึงรีบเดินเข้ามาถามว่า "พ่อหนุ่มหาอะไรอยู่?" เขาจึงตอบว่า "เงินผมในกระเป๋าเสื้อหายไปหมด ไม่รู้จะกลับบ้านยังไง.."
แม่ของเด็กน้อยจึงเสนอที่จะไปส่งเขาที่บ้าน เมื่อถึงหน้าบ้านของอาหลิว พ่อแม่ของเด็กน้อยหยิบถุงจากท้ายรถออกมามอบให้เขา ข้างในเป็นเงิน 100,000 บาท เขาเปิดออกดูก็รีบปฏิเสธเพราะคิดว่ามันมากเกินไป แต่พอของเด็กน้อยก็ยืนยันว่าขอตอบแทนที่ช่วยชีวิตลูกสาวเอาไว้ แถมยังเสนองานที่โรงงานให้อาหลิวทำอีกด้วย
ชาวบ้านแถบนั้นต่างก็ชื่นชมอาหลิว เขาเป็นคนดีมีน้ำใจ ช่วยเหลือคนอื่นทั้งที่ตนเองก็อาจจะเกิดอันตรายได้ ถึงแม้ว่าเขาจะโดนขโมยเงินไปทำให้ไม่มีเงินกลับบ้าน แต่กลายเป็นว่าเขาได้เงินกลับมามากกว่าเดิมอีก เพราะผลจากการกระทำความดี เราเชื่อว่าการทำความดียังไงไม่ช้าก็เร็วก็จะส่งผลดีกับชีวิตแน่นอนค่ะ
No comments:
Post a Comment