ครม.ไ ฟเขียว ข ยายมาตรการช่ วยเหลื อ 5000 จา ก 9 ล้าน คน เป็น 14 ล้าน คน
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า ครม. มีมติเห็นชอบในหลักการการขยายกลุ่มเป้าหมายผู้ได้รับสิทธิของมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบ หรือผู้ได้รับผลกระทบอื่น ๆ ของการแพร่ covid19 ให้ครอบคลุมทั่วถึงผู้ได้รับผลกระทบ จากเดิม 9 ล้านคน เป็น 14 ล้านคน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
โดยก่อนหน้านี้ ครม.ได้มีมติเมื่อวันที่ 24 มี.ค.63 เห็นชอบในหลักการมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ได้รับผลกระทบอื่น ๆ ของการแพร่ covid19 ซึ่งเป็นมาตรการและโครงการภายใต้ชุดมาตรการดูแลและช่วยเหลือผลกระทบ ต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม ระยะที่ 2 และได้มีมติเมื่อวันที่ 31 มี.ค.63 เห็นชอบการขยายกลุ่มเป้าหมายเพื่อดำเนินมาตรการฯ เป็นจำนวน 9 ล้านคน รวมทั้งเห็นชอบแนวทางการใช้จ่ายงบประมาณตามที่กระทรวงการคลังเสนอนั้น
กระทรวงการคลัง ได้เปิดให้ผู้ได้รับผลกระทบลงทะเบียนตามมาตรการฯ และพบว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบมีมากกว่าที่ได้ประมาณการไว้ อีกทั้งจากการรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับผู้เข้าข่ายได้รับสิทธิในการชดเชยรายได้ตามมาตรการฯ พบว่า ผู้ได้รับผลกระทบบางส่วน มีรายชื่อปรากฏอยู่ในฐานข้อมูลผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม หรือฐานข้อมูลนักเรียน-นักศึกษา แต่ประกอบอาชีพลูกจ้าง แรงงาน หรือประกอบอาชีพอิสระเป็นอาชีพหลัก ดังนั้นเพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง กระทรวงการคลัง จึงเห็นสมควรเสนอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับมาตรการฯ ดังกล่าว
นอกจากนี้ ในปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้างและทุกพื้นที่ จึงจำเป็นต้องเร่งให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับผลกระทบ และบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจไทยในอนาคต
กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว จึงเห็นสมควรเสนอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับมาตรการฯ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง โดยขยายจำนวนผู้เข้าข่ายได้รับสิทธิของมาตรการฯ ให้ครอบคลุมทั่วถึงผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ของ covid19 จากเดิมจำนวน 9 ล้านคน เป็น 14 ล้านคน
สำหรับเรื่องงบประมาณนั้น ที่ประชุมครม.ได้ให้กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณพิจารณาร่วมกันอีกครั้ง ถึงแหล่งเงินงบประมาณที่จะสามารถนำมาใช้ดำเนินการได้ทันการณ์
อนึ่ง จากการเปิดให้ผู้ได้รับผลกระทบลงทะเบียนตามมาตรการฯ ตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.-17 เม.ย.63 พบว่า ผู้ลงทะเบียนมีจำนวนรวม 28 ล้านคน ซึ่งมีจำนวนมากกว่าที่ได้ประมาณการไว้
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า ครม. มีมติเห็นชอบในหลักการการขยายกลุ่มเป้าหมายผู้ได้รับสิทธิของมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบ หรือผู้ได้รับผลกระทบอื่น ๆ ของการแพร่ covid19 ให้ครอบคลุมทั่วถึงผู้ได้รับผลกระทบ จากเดิม 9 ล้านคน เป็น 14 ล้านคน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
โดยก่อนหน้านี้ ครม.ได้มีมติเมื่อวันที่ 24 มี.ค.63 เห็นชอบในหลักการมาตรการชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ได้รับผลกระทบอื่น ๆ ของการแพร่ covid19 ซึ่งเป็นมาตรการและโครงการภายใต้ชุดมาตรการดูแลและช่วยเหลือผลกระทบ ต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม ระยะที่ 2 และได้มีมติเมื่อวันที่ 31 มี.ค.63 เห็นชอบการขยายกลุ่มเป้าหมายเพื่อดำเนินมาตรการฯ เป็นจำนวน 9 ล้านคน รวมทั้งเห็นชอบแนวทางการใช้จ่ายงบประมาณตามที่กระทรวงการคลังเสนอนั้น
กระทรวงการคลัง ได้เปิดให้ผู้ได้รับผลกระทบลงทะเบียนตามมาตรการฯ และพบว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบมีมากกว่าที่ได้ประมาณการไว้ อีกทั้งจากการรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับผู้เข้าข่ายได้รับสิทธิในการชดเชยรายได้ตามมาตรการฯ พบว่า ผู้ได้รับผลกระทบบางส่วน มีรายชื่อปรากฏอยู่ในฐานข้อมูลผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม หรือฐานข้อมูลนักเรียน-นักศึกษา แต่ประกอบอาชีพลูกจ้าง แรงงาน หรือประกอบอาชีพอิสระเป็นอาชีพหลัก ดังนั้นเพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง กระทรวงการคลัง จึงเห็นสมควรเสนอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับมาตรการฯ ดังกล่าว
นอกจากนี้ ในปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้างและทุกพื้นที่ จึงจำเป็นต้องเร่งให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับผลกระทบ และบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจไทยในอนาคต
กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว จึงเห็นสมควรเสนอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับมาตรการฯ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง โดยขยายจำนวนผู้เข้าข่ายได้รับสิทธิของมาตรการฯ ให้ครอบคลุมทั่วถึงผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ของ covid19 จากเดิมจำนวน 9 ล้านคน เป็น 14 ล้านคน
สำหรับเรื่องงบประมาณนั้น ที่ประชุมครม.ได้ให้กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณพิจารณาร่วมกันอีกครั้ง ถึงแหล่งเงินงบประมาณที่จะสามารถนำมาใช้ดำเนินการได้ทันการณ์
อนึ่ง จากการเปิดให้ผู้ได้รับผลกระทบลงทะเบียนตามมาตรการฯ ตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.-17 เม.ย.63 พบว่า ผู้ลงทะเบียนมีจำนวนรวม 28 ล้านคน ซึ่งมีจำนวนมากกว่าที่ได้ประมาณการไว้
No comments:
Post a Comment