สรุปประเด็ นร้อน หมอสุด ทน แฉรัฐ ตัดง บบัตรทอ ง คนจ นสะเทือน ปลัด สธ ต้องแจงวุ่น
จากกระแสข่าวดัง ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เมื่อนายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จังสงขลา โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวความว่า 21 เมษายน 63 ที่ผ่านมา ครม.มีมติหั่นงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง จำนวน 2,400 ล้านบาท เพื่อนำไปตั้งเป็นงบสำรองฉุกเฉิน แก้ไขปัญหา ช่วยเหลือเยียวยา และบรรเทาผลกระทบ จากการแพร่ระบาด Covid 19
นายแพทย์สุภัทรยังกล่าวอีกว่า ตลอดสามเดือนที่มีการระบาดของเชื้อโควิด โรงพยาบาลต่างๆ แทบไม่เคยได้รับงบประมาณที่เป็นตัวเงินจากรัฐบาลเลย นอกจากหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์เจล และชุด PPE
โรงพยาบาลต้องใช้เงินบำรุงที่เก็บสะสมไว้มาใช้จ่ายจำนวนมากในช่วงนี้ และโรงพยาบาลเกือบทุกแห่งต้องเปิดรับเงินบริจาคจากประชาชน
รัฐบาลไม่สนับสนุนงบประมาณให้กับกระทรวงสาธารณสุข หรือ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สปสช. เพิ่มนั้น พอเข้าใจได้ แต่การมาตัดงบของสายสุขภาพลงไป 3,600 ล้านบาทนั้น ไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมรัฐบาลจึงเพี้ยนเช่นนี้ วิธีคิดเช่นนี้ สอบตกโดยสิ้นเชิง
เมื่อโพสต์เผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตก็แห่วิพากษ์วิจารณ์มติการตัดลดงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง ในเชิงเปรียบเทียบกับการซื้อยานเกราะสไตรเกอร์ซึ่งมีการชะลอการซื้อไปในปี 2564 ว่า
ประเทศด้อยพัฒนาจะให้ความสำคัญกับการซื้ออาวุธ ส่วนสุขภาพและการศึกษาจะเอาไว้ที่หลัง หรือ ตัดงบสาธารณสุข แต่จะเอาไปซื้อรถถัง มันบ้าป่ะวะ เป็นต้น
นางสุนทรี หัตถี เซ่งกิ่ง กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติสัดส่วนภาคประชาชน ให้ความเห็นว่า ในภาวะการแพร่ระบาดรุนแรงเช่นนี้ ไม่ควรถูกตัดลดงบประมาณ กลับกันควรได้รับงบสนับสนุนเพิ่มขึ้น ทั้งยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนว่า เงินก้อนที่ถูกตัดไป จะถูกนำไปจัดสรรอย่างไร
นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยกับทีมข่าวช่อง 3 ออนไลน์ว่า ในช่วงวิกฤต Covid 19 ที่รัฐบาลมีการว่าจ้างข้าราชการเพิ่มขึ้น สปสช. จำเป็นต้องมีเงินบางส่วน เพื่อจ่ายเป็นค่าแรงในการจ้างบุคลากรจำนวน 4 หมื่นกว่าตำแหน่ง เพื่อเตรียมดูแลผู้ป่วย Covid 19 จึงจำเป็นต้องนำงบประมาณมาใช้จ่ายในส่วนนี้
ขณะเดียวกัน การบริการผู้ป่วยนั้น ทางรัฐบาลก็ได้สนับสนุนงบประมาณจำนวน 3,260 ล้านบาท ซึ่งมาจากงบกลางให้ สปสช. ใช้ในการดูแลคัดกรองผู้ป่วย Covid 19 ในกรณีค่าใช้จ่ายไม่พออีกประมาณปีละ 5 พันล้านบาท
เมื่อถามถึงเรื่องผลกระทบต่อการใช้บัตรทอง นายแพทย์สุขุมกล่าวว่า ไม่มีปัญหาแน่นอน แถมจะดีกว่าเดิมเนื่องจากมีข้าราชการที่เป็นแพทย์และพยาบาลเพิ่มมากขึ้น ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่าโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่งพร้อมดูแล
ที่มา ch3thailandnews
จากกระแสข่าวดัง ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เมื่อนายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จังสงขลา โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวความว่า 21 เมษายน 63 ที่ผ่านมา ครม.มีมติหั่นงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง จำนวน 2,400 ล้านบาท เพื่อนำไปตั้งเป็นงบสำรองฉุกเฉิน แก้ไขปัญหา ช่วยเหลือเยียวยา และบรรเทาผลกระทบ จากการแพร่ระบาด Covid 19
นายแพทย์สุภัทรยังกล่าวอีกว่า ตลอดสามเดือนที่มีการระบาดของเชื้อโควิด โรงพยาบาลต่างๆ แทบไม่เคยได้รับงบประมาณที่เป็นตัวเงินจากรัฐบาลเลย นอกจากหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์เจล และชุด PPE
โรงพยาบาลต้องใช้เงินบำรุงที่เก็บสะสมไว้มาใช้จ่ายจำนวนมากในช่วงนี้ และโรงพยาบาลเกือบทุกแห่งต้องเปิดรับเงินบริจาคจากประชาชน
รัฐบาลไม่สนับสนุนงบประมาณให้กับกระทรวงสาธารณสุข หรือ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สปสช. เพิ่มนั้น พอเข้าใจได้ แต่การมาตัดงบของสายสุขภาพลงไป 3,600 ล้านบาทนั้น ไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมรัฐบาลจึงเพี้ยนเช่นนี้ วิธีคิดเช่นนี้ สอบตกโดยสิ้นเชิง
เมื่อโพสต์เผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตก็แห่วิพากษ์วิจารณ์มติการตัดลดงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง ในเชิงเปรียบเทียบกับการซื้อยานเกราะสไตรเกอร์ซึ่งมีการชะลอการซื้อไปในปี 2564 ว่า
ประเทศด้อยพัฒนาจะให้ความสำคัญกับการซื้ออาวุธ ส่วนสุขภาพและการศึกษาจะเอาไว้ที่หลัง หรือ ตัดงบสาธารณสุข แต่จะเอาไปซื้อรถถัง มันบ้าป่ะวะ เป็นต้น
นางสุนทรี หัตถี เซ่งกิ่ง กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติสัดส่วนภาคประชาชน ให้ความเห็นว่า ในภาวะการแพร่ระบาดรุนแรงเช่นนี้ ไม่ควรถูกตัดลดงบประมาณ กลับกันควรได้รับงบสนับสนุนเพิ่มขึ้น ทั้งยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนว่า เงินก้อนที่ถูกตัดไป จะถูกนำไปจัดสรรอย่างไร
นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยกับทีมข่าวช่อง 3 ออนไลน์ว่า ในช่วงวิกฤต Covid 19 ที่รัฐบาลมีการว่าจ้างข้าราชการเพิ่มขึ้น สปสช. จำเป็นต้องมีเงินบางส่วน เพื่อจ่ายเป็นค่าแรงในการจ้างบุคลากรจำนวน 4 หมื่นกว่าตำแหน่ง เพื่อเตรียมดูแลผู้ป่วย Covid 19 จึงจำเป็นต้องนำงบประมาณมาใช้จ่ายในส่วนนี้
ขณะเดียวกัน การบริการผู้ป่วยนั้น ทางรัฐบาลก็ได้สนับสนุนงบประมาณจำนวน 3,260 ล้านบาท ซึ่งมาจากงบกลางให้ สปสช. ใช้ในการดูแลคัดกรองผู้ป่วย Covid 19 ในกรณีค่าใช้จ่ายไม่พออีกประมาณปีละ 5 พันล้านบาท
เมื่อถามถึงเรื่องผลกระทบต่อการใช้บัตรทอง นายแพทย์สุขุมกล่าวว่า ไม่มีปัญหาแน่นอน แถมจะดีกว่าเดิมเนื่องจากมีข้าราชการที่เป็นแพทย์และพยาบาลเพิ่มมากขึ้น ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่าโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่งพร้อมดูแล
ที่มา ch3thailandnews
No comments:
Post a Comment