จากกรณีตามมาตรการ เราไม่ทิ้งกัน ที่ทางรัฐบาลช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานกาณ์การแพร่กระจายของ CO VID วันนี้ 14 พ.ค. นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้ามาตรการช่วยเหลือ 5000 บาทว่า ล่าสุดมีผู้ผ่านเกณฑ์แล้ว 14.5 ล้านราย แบ่งเป็นกลุ่มผู้ที่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองตั้งแต่รอบแรก 4.4 ล้านราย กลุ่มที่ขอข้อมูลประกอบอาชีพเพิ่มเติมและผ่านเกณฑ์ 5.3 ล้านราย และกลุ่มที่ขอทบทวนสิทธิและผ่านเกณฑ์ 4.7 ล้านราย
เราไม่ทิ้งกัน
ส่วนการเปิดรับเรื่องร้องเรียนที่กระทรวงการคลัง กรมประชาสัมพันธ์ พบว่า ในสัปดาห์นี้ประเด็นเรื่องร้องเรียนจากประชาชนส่วนใหญ่ยังคงเป็น 2 กลุ่มเช่นเดิม ได้แก่
1.กลุ่มผู้ที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จ เนื่องจากข้อมูลบัตรประชาชนไม่ถูกต้อง 1.7 ล้านราย ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไป เบื้องต้นพบเป็นหัวหน้าครัวเรือนเกษตรและผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ซึ่งมีสิทธิได้รับการช่วยเหลือตามมาตรการอื่นจำนวน 6 แสนราย
2.กลุ่มผู้ที่ได้รับสิทธิ แต่ชื่อบัญชีไม่ตรงกับชื่อและนามสกุลที่ลงทะเบียนไว้ ทำให้กระทรวงการคลังไม่สามารถโอนเงินให้ได้ ในเบื้องต้นมีประมาณ 1 ล้านราย ดังนั้นหากตรวจสอบสถานะแล้วพบว่าท่านเป็นผู้ผ่านเกณฑ์แต่ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ โปรดติดต่อที่ธนาคารใดก็ได้ที่ท่านมีบัญชีอยู่แล้ว เพื่อผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน จะเป็นช่องทางที่สะดวกที่สุดในการรับเงินมาตรการช่วยเหลือ 5000 บาท โดยไม่ต้องดำเนินการอะไรเพิ่มเติมอีก
กระทรวงการคลังจะมีการตรวจสอบและโอนเงินให้ใหม่เป็นประจำทุกสัปดาห์ ในกรณีที่เป็นลูกค้าของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ได้แก่ ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธ.ก.ส. รวมถึงธนาคารกรุงไทย จำกัด มหาชน ธนาคารจะมีการติดต่อไปหาท่านเพื่ออำนวยความสะดวกในการผูกพร้อมเพย์อีกทางหนึ่งด้วย
ตามที่กระทรวงการคลังเคยแจ้งให้ทราบล่วงหน้าแล้วว่า การรับเรื่องร้องเรียนที่กระทรวงการคลัง กรมประชาสัมพันธ์ จะเปิดให้บริการในวันศุกร์ที่ 15 พ.ค.2563 เป็นวันสุดท้าย กระทรวงการคลังได้พิจารณาจัดเตรียมช่องทางในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ที่ได้ลงทะเบียนไว้และยังประสงค์ที่จะร้องเรียนเกี่ยวกับการขอรับสิทธิตามมาตราการช่วยเหลือ 5000 บาท รวมถึงผู้ที่ได้รับข้อความว่าผ่านเกณฑ์ แต่ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ
สามารถติดต่อสาขาของธนาคารออมสิน ธ.ก.ส. และธนาคารกรุงไทย เพื่อร้องเรียน ขอคำแนะนำ หรือเพื่อผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 พ.ค. ถึงวันศุกร์ที่ 29 พ.ค.2563
ทั้งนี้สามารถติอต่อ 3 ธนาคาร คือธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธ.ก.ส.และธนาคารกรุงไทย เพื่อร้องเรียน ขอคำแนะนำ หรือเพื่อผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 พ.ค. ถึงวันศุกร์ที่ 29 พ.ค.2563
No comments:
Post a Comment