วันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ทีมข่าว dailyliveexpress ได้รับรายงานว่า บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) แจ้งว่า บขส. เตรียมเปิดเดินรถในเส้นทาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ โดยมีเส้นทางจำกัด ในแต่ละพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเดินทาง หลังจากที่ บขส.หยุดให้บริการชั่วคราวทุกเส้นทาง ตั้งแต่วันที่ 3เม.ย.ที่ผ่านมาจากสถานการณ์การแพร่กระจายของ cd 19
ภาคเหนือและภาคอีสาน เริ่มวันที่ 18 พ.ค. ภาคใต้เริ่ม 1 มิ.ย.
ภาคเหนือ จำนวน 7 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางกรุงเทพฯ เชียงใหม่ กรุงเทพฯ เชียงราย กรุงเทพฯ อุตรดิตถ์ กรุงเทพฯ สารจิตร กรุงเทพฯ แม่สอด กรุงเทพฯ หล่มเก่า กรุงเทพฯ คลองลาน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก จำนวน 9 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางกรุงเทพฯ หนองบัวลำภู กรุงเทพฯ สกลนคร กรุงเทพฯ เชียงคาน กรุงเทพฯ สุรินทร์ กรุงเทพฯ บุรีรัมย์ กรุงเทพฯ กันทรลักษ์ กรุงเทพฯ ศรีสะเกษ กรุงเทพฯ รัตนบุรี กรุงเทพฯ จันทบุรี
ภาคใต้ เปิดเดินรถ จำนวน 3 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางกรุงเทพฯ เกาะสมุย กรุงเทพฯ ภูเก็ต กรุงเทพฯ ตรัง
ทั้งนี้ บขส. มีมาตรการในการป้องกันความเสี่ยงจากการแพร่กระจาย cd 19 สำหรับพนักงานประจำรถ พนักงานจำหน่ายตั๋ว และพนักงานชานชาลา โดยผู้ปฏิบัติงานต้องดูแลสุขภาพ และรักษาความสะอาดอย่างเคร่งครัด ต้องตรวจวัดอุณหภูมิก่อนปฏิบัติงาน และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาในขณะปฏิบัติงาน
ด้านรถโดยสารและสิ่งอำนวยความสะดวก บขส. จัดที่นั่งภายในรถโดยสารเว้นระยะนั่ง อย่างน้อย 1 เมตร ตามนโยบาย Social Distancing ทำความสะอาดรถโดยสาร ห้องน้ำ และจุดที่สัมผัสบ่อย ก่อนและหลังให้บริการ มีการเปิดระบายอากาศภายในรถ และนำรถโดยสารจอดตากแดด หลังให้บริการทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1 ถึง 2 ชั่วโมง
ด้านสถานีขนส่งผู้โดยสาร มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย จัดพื้นที่นั่งคอยภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร จัดเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดสม่ำเสมอ ประชาสัมพันธ์ให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดการเดินทาง หมั่นล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ชนิดเจลหรือน้ำอยู่เสมอ และเว้นระยะห่างนั่ง หรือยืนอย่างน้อย 1 เมตร พร้อมทั้งได้ประสานงานกับขนส่งจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการป้องกันและควบคุมไม่ให้มีการแพร่กระจาย cd 19 ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการภายในสถานีขนส่งและรถโดยสาร ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดการเดินทาง ต้องผ่านการคัดกรองผู้โดยสาร หากพบผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ห้ามเดินทางโดยเด็ดขาด รวมทั้งผู้โดยสารที่เดินทางข้ามพื้นที่จังหวัด ต้องกรอกข้อมูลคำถามสุขภาพ ตามแบบ ต.8-คค ที่ระบุจุดเดินทางที่ออกและจุดหมายปลายทางที่เป็นประโยชน์ต่อการควบคุมอาการ
No comments:
Post a Comment