จากกรณีแม่ค้าขายอาหารทะเลสด ออกมาร้องขอความเป็นธรรม หลังจากไปซื้ออาหารทะเลที่ จ.ตรัง และเดินทางกลับ จ.พัทลุง แต่มาถูกตำรวจ ซึ่งมีทั้งระดับสารวัตร นายดาบ และตำรวจฝึกงาน จับเคอร์ฟิว และคุมตัวมาที่ สภ.เมืองพัทลุง พร้อมยึดโทรศัพท์ ก่อนจะมีการเรียกรับเงิน 80,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว แต่แม่ค้าไม่มีเงิน จนสุดท้ายตกลงกันที่ 10,000 บาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 8 มิ.ย. นายเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะที่ตนเดินทางไปหาเพื่อนในพื้นที่ ต.ท่าแค อ.เมือง จ.พัทลุง โดยจอดรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ ไว้ที่บริเวณหน้าบ้านของเพื่อน จังหวะนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดของสารวัตรที่ตกเป็นข่าวก่อนหน้านี้ ได้เข้าไปในพื้นที่เพื่อจับสิ่งผิดกฎหมายที่บ้านอีกหลัง
จู่ ๆ เมื่อผมจะกลับบ้านก็พบว่าจักรยานยนต์หายไป พอสอบถามจึงทราบว่า ตำรวจได้ยกรถจักรยานยนต์ของผมขึ้นรถไปที่โรงพักเมืองพัทลุง ผมสงสัยว่ายึดรถผมไปทำไม จึงเดินทางไปสภ.เมืองพัทลุง เพื่อจะเอารถกลับคืน แต่ปรากฏว่าตำรวจชุดดังกล่าวบอกว่าให้เอาเครื่อดื่มมา 1 ลัง ไปแลกกับการรับรถจักรยานยนต์กลับคืน ผมต้องกลับมายืมเงินจากเพื่อน 3,000 กว่าบาทไปเครื่อดื่มขนาดขวดแบน 1 ลัง ไปมอบให้กับสารวัตร จึงได้รถจักรยานยนต์กลับคืนมา นายเอ กล่าว
นายเอ กล่าวต่อว่า วันเกิดเหตุตนไปทำธุระที่บ้านเพื่อน โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเข้าจับของตำรวจเลย และไม่ได้มั่วสุมด้วย แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมตำรวจต้องยึดรถจักรยานยนต์ของตนไปที่โรงพัก และเมื่อไปรับคืน ต้องนำเครื่อดื่มไปแลกกลับด้วย
สำหรับตำรวจชุดดังกล่าวนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัยและอาญาของตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง กรณีของแม่ค้าขายอาหารทะเลสด ร้องเรียนว่าถูกเรียกเก็บเงิน โดยทาง ภ.จว.พัทลุง ระบุใช้เวลาในการสอบสวน รวม 7 วัน
No comments:
Post a Comment