จากกรณี นางสุพัตรา อินธูป อายุ 41 ปี ชาว ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เดินทางมาที่ สภ.สามโคก เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ยุทธภูมิ โพธิ์อุดม สารวัตรสอบสวน ว่าเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2563 เวลากลางวันบุตรสาวของผู้แจ้งคือ เด็กหญิงจุฑามาศ ขุนจันทึก อายุ 15 ปี ได้ถูก นางสาวธิติมา บุญเพ็ง ซึ่งเป็นครูประจำชั้นของเด็กหญิงจุฑามาศ สั่งให้เด็กหญิงจุฑามาศและเพื่อนร่วมชั้น ลุกนั่งจำนวน 100 ครั้ง ต่อมาเมื่อถึงบ้านพบว่าบุตรสาวของตนมีอาการปวดที่บริเวณขา แล้วเดินไม่ได้ ผู้แจ้งจึงพาบุตรสาวไปรักษาตัวที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และนำเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 13.30 น. นายชูชาติ เที่ยงธรรม ผอ.โรงเรียน พร้อมด้วย นางสาวธิติมา บุญเพ็ง ครูประจำชั้น คณะครูโรงเรียนสามโคก เจ้าหน้าที่ของพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี และบ้านพักเด็กจังหวัดปทุมธานี ได้เข้าไปเยี่ยมครอบครัวของเด็กหญิงจุฑามาศ ขุนจันทึก อายุ 15 ปี ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
นายพงษ์ศักดิ์ ขุนจันทึก อายุ 41 ปี พ่อเด็ก กล่าวว่า ในตอนแรกตนก็ยังไม่เข้าใจว่า ทางโรงเรียนจะช่วยเหลืออย่างไร แต่เมื่อวันนี้ทางโรงเรียนนำโดยท่านผู้อำนวยการ ได้เข้ามาพูดคุยจึงทราบว่า โรงเรียนมีมาตรการช่วยเหลือ จึงรู้สึกสบายใจขึ้น พร้อมได้พูคคุยกับครูที่สั่งทำโทษเด็กก็รู้สึกเห็นใจเพราะเขายอมรับผิดทุกอย่าง และครูก็มาเยี่ยมที่บ้านตลอด ซึ่งทางพ่อกับแม่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร
ด้าน นายชูชาติ เที่ยงธรรม ผู้อำนวยการโรงเรียนสามโคก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า ในส่วนของโรงเรียน รู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น และขออภัยผู้ปกครองในความกังวลใจ ขอยืนยันว่าไม่ได้เพิกเฉย ได้ดำเนินการลงพื้นที่เยี่ยมเยียนน้องนักเรียนมาโดยตลอดหลังจากทราบเรื่อง ทั้งมาด้วยตัวเอง รอง ผอ. และครูที่สั่งทำโทษ ในส่วนของการดูแลนั้น โดยทางโรงเรียนได้มีการดำเนินการช่วยเหลือใน 3 ส่วน
1. ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ให้ผู้ปกครองส่งเอกสารใบเสร็จผ่านครูที่ปรึกษา และจ่ายให้ไปแล้วตามลำดับ ผ่านเงินสำรองด้านสุขภาพที่บริษัทประกันและผู้มีจิตกุศล มอบไว้ให้เพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่ประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย ซึ่งได้แจ้งผู้ปกครองให้ส่งใบเสร็จมาเรื่อยๆ ตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าโรงเรียนจะช่วยดูแลจนกว่านักเรียนจะหายเป็นปกติ
2. ดูแลเรื่องการเรียนของนักเรียนผ่านคู่มือการเรียนกรณีไม่สามารถมาเรียนได้ ที่รวมเอกสารการเรียนรู้และใบงานไว้เป็นเล่มอย่างต่อเนื่องและให้เวลาเรียนเป็นกรณีพิเศษ เหมือนนักเรียนคนอื่นที่ต้องหยุดเรียนจากการนานๆ โดยนักเรียนสามารถเรียนอยู่ที่บ้านได้ จนกว่าจะสามารถมาโรงเรียนได้ โดยให้กระทบกับการเรียนของนักเรียนน้อยที่สุด
3. การดูแลสภาพจิตใจของนักเรียน มีการไปเยี่ยม ติดตามอาการอย่างต่อเนื่องผ่านช่องทางต่างๆ พร้อมนำส่งข้อสอบใบงานให้ทำที่บ้าน พูดคุยกับนักเรียนให้สบายใจและเชื่อมั่นในการกลับมาเรียน ที่เพื่อนนักเรียน ครูทุกคนยังให้กำลังใจและพร้อมดูแล แม้กระทั่งได้รับการรักษาสิทธิ์ในเรื่องอื่นๆ ตามปกติ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งนี้ครูและโรงเรียนยืนยันว่าจะร่วมกันรับผิดชอบดูแลจนกว่านักเรียนจะหายเป็นปกติ
No comments:
Post a Comment