กลายเป็นประเด็นต่อเนื่องมาจากดราม่า แบนศรีพันวา เนื่องจากมีการขุดคุ้ยข้อมูลของโรงแรมศรีพันวา พบผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของศรีพันวา คือ สำนักงานประกันสังคม จำนวนหุ้นอยู่ที่ 63,072,615 หุ้น หรือคิดเป็น 22.60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกิดการตั้งคำถามว่า สาเหตุนี้หรือไม่ที่ประกันสังคม ไม่สามารถเอาเงินมาจ่ายให้ผู้ประกันตนช่วงสถานการณ์โควิด 19 ที่ผ่านมาได้ เนื่องจากพบว่าผลประกอบการของโรงแรมศรีพันวา ในปี 2561 ขาดทุนกว่า 150 ล้านบาท อีกทั้งยังสงสัยว่าทำไมถึงนำเงินไปลงทุนกิจการที่มีความเสี่ยงสูง
ล่าสุด วันที่ 22 กันยายน 2563 พรรคเพื่อไทย รายงานว่า นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า คณะกรรมาธิการจะสืบสวนสอบสวนกรณีกองทุนประกันสังคมนำเงินจำนวนมากไปลงทุนซื้อหุ้นประเภทความเสี่ยงสูง อย่างเช่น โรงแรมศรีพันวา จ.ภูเก็ต
ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานเคยพูดถึงเงินก้อนนี้ตั้งแต่เดือนมีนาคม ว่าจะดูแลกลุ่มที่ถูกหักเงินเข้ากองทุนประกันสังคมและผู้จ่ายเงินสมทบ เขาแค่ขอคืนไม่ใช่ขอทาน และ ครม. มีมติตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน แต่จนถึงวันนี้กลับยังมีขั้นตอนซับซ้อนวุ่นวาย ยังได้ไม่ครบ เงินเข้ากองทุนประกันสังคม ปี ๆ หนึ่งหลายแสนล้านบาท แต่กลับล่าช้า ได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัส คนในกระทรวงบางคนก็สนใจแต่การประมูลซื้อคอมพิวเตอร์มูลค่าหลายพันล้าน
"การใช้เงินของกองทุนประกันสังคมเข้าไปลงทุนในหุ้นของโรงแรมศรีพันวา จ.ภูเก็ต เป็นเรื่องที่น่าตกใจและประชาชนให้ความสนใจมาก ซึ่งจะนำเรื่องเข้าพิจารณาในคณะกรรมาธิการ ว่ากองทุนเงินประกันสังคม นำเงินไปลงทุนในกองทุนต่าง ๆ ผลประกอบการเป็นยังไง เหตุใดจึงเลือกในธุรกิจประเภทนี้ และผลตอบแทนเป็นอย่างไร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานใหม่ทั้ง 2 คน ในฐานะกำกับดูแลกองทุนประกันสังคม ต้องออกมาชี้แจงให้กับสังคมว่าเอาเงินของประชาชนไปทำอะไรบ้าง เพื่อนำมาประกอบการสอบสวนของคณะกรรมาธิการในการพิจารณาผลการดำเนินงานของกองทุน เพื่อชี้แจงความเหมาะสมกับประชาชนผู้เสียเงินสมทบให้กับกองทุนว่านำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ เรื่องนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานจะต้องรับผิดชอบ และคณะกรรมาธิการจะทำสำนวนร้องต่อ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. ต่อไปหากพบมูลความผิด"
No comments:
Post a Comment