ล่าสุดวันที่ 23 ก.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ทราบข้อมูลว่า วันนี้ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ผู้ใหญ่นิ่ม เดินทางไปพร้อมกับภรรยา นำเอกสารและหลักฐานกรณีคลิปเพิ่มเติม ไปมอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีกับคนดัง และหญิง 2 คนที่มีการโทรหาผู้ใหญ่ ก่อนนำคลิปไปเผยแพร่ โดยสภ.กกตูม รับแจ้งเอาไว้ 1.หมิ่นประมาทด้วยการนำเข้าและโฆษณา 2.ผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ จนทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับเอาไว้ก่อน จากนั้นจะพิจารณาตามหลักฐาน
ตำรวจ สภ.กกตูม ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า กรณีคลิปที่ถูกเผยแพร่ เป็นข้อมูลพื้นฐานของการทำงานในคดีน้องชมพู่ ซึ่งตำรวจได้ดูรายละเอียดดังกล่าวไว้หมดแล้ว ดังนั้นจึงเชื่อว่าคลิปจะไม่มีผลต่อคดี เพราะตำรวจได้ทำงานและหาข้อมูลเหล่านั้นเอาไว้ทั้งหมด แต่ในช่วงระยะหลังที่มีตำรวจลงพื้นที่เพิ่มขึ้น เป็นเพราะว่ามีการสอบถามเพื่อยืนยันความชัดเจน หลังจากที่ก่อนหน้านี้การสอบปากคำเอาไว้เท่านั้น
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
ทีมข่าว เดินทางไปพบกับนายธนกฤต หลาบโพธิ์ สามีผู้ใหญ่บ้านขัวสูง ในฐานะพยานของพ่อน้องชมพู่ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้มีตำรวจชุดสืบ ยศผู้กองและดาบตำรวจ เดินทางมาหาในสวนยาง มาสอบถามเพื่อยืนยันเวลาที่เจอพ่อน้องชมพู่บนถนน โดยตนยืนยันดังเดิมว่าเจอจริง แต่ไม่ได้เจอที่นาตามที่พ่อให้ข้อมูล และจะขอเป็นพยานให้ในส่วนที่พบเห็นเท่านั้น
ส่วนพฤติกรรมอื่น ตนขอไม่ยุ่งเกี่ยว จากนั้นตำรวจใช้เวลาเพียง 15 นาที ก็กลับออกไป โดยมีการลงบันทึกในเอกสาร แต่ไม่ได้มีอะไรให้ตนเองเช็น และการเป็นพยานก็ไม่ได้มีความกังวลใจอะไร ตอบเท่าที่รู้ ให้ข้อมูลเท่าที่เห็น
เรื่องคลิปเสียง 5 คลิป ที่ปล่อยออกมา ตนได้ฟังครบทั้งหมดแล้ว คนในคลิปก็คือ ผู้ใหญ่นิ่ม ตนสนิทมาตั้งแต่เด็ก ๆ จึงจำได้แม่น และการพูดเกี่ยวกับคดีก็เป็นความจริงทั้งหมด ไม่ใช่ข้อมูลเท็จ การพูดไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่พูดออกมาด้วยความอึดอัดใจ ที่เจอแรงกดดันหลายฝ่าย ทั้งอำเภอ ทั้งตำรวจ ผู้ใหญ่จึงยอมเล่าหมดเปลือก แบบไม่ได้คิดถึงผลกระทบ
นายธนกฤต ยังเล่าย้อนเกี่ยวกับวันที่ ตำรวจสภ.กกตูม มีการเรียกสอบบุคคลเกี่ยวกับคดีชมพู่ ซึ่งกลุ่มของตนเองคือ ชาวบ้านกลุ่มแรกที่ถูกเรียกสอบ หลังเจอน้องชมพู่ วันที่ 14 พ.ค.63 จากนั้น 15 พ.ค.63 มีสายโทรศัพท์จากชาวบ้านกกกอก โทรมาบอกว่า ลูกสาวเห็นคนเสื้อส้มอุ้มชมพู่ไป ตนจึงแจ้งตำรวจ
จากนั้นช่วงบ่าย ตำรวจเรียกให้ตน น.ส.เปิ้ล ช่างวา และพ่อแม่ชมพู่ มาสอบปากคำ ซึ่งเป็นจุดเริ่มของการสืบคดี ตนสังเกตพฤติกรรมของคนในกลุ่มที่ถูกเรียกสอบ มีคน 2 คนตื่นตกใจ และวิตกกังวลมากที่สุด โดยคนในกลุ่มพยายามพูดว่า ลุงรู้ใช่ไหม ลุงเห็นใคร ลุงเห็นหน้าไหม บอกหน่อย ซึ่งเกิดอาการกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด ตนก็ยังนึกสงสัยจนถึงทุกวันนี้ ว่าทำไมคน 2 คน ถึงมีอาการแปลกกว่าคนอื่น ซึ่งอาจเกี่ยวข้องหรือรู้อะไรบางอย่างหรือไม่
ส่วนภายในพื้นที่หมู่บ้านกก วันนี้พบว่าชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตตามปกติ และพบเห็นรถตำรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่น้อยลง ไม่มากเหมือนเมื่อวานที่ผ่านมา ขณะที่บ้านลุงพล ยังคงมีชาวบ้านมาเปิดร้านขายของตามปกติ และมีกลุ่มคนเดินทางมาให้กำลังใจต่อเนื่อง แต่ค่อนข้างบางตา ด้านครอบครัวของน้องชมพู่ ยังคงอาศัยอยู่ภายในบ้าน ไม่ได้ออกไปไหน หลังถูกปล่อยคลิป ทำให้ถูกมองไม่ดี ไม่กล้าไปพบเจอหน้าใคร
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว
No comments:
Post a Comment