เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2563 ที่ผ่านมา มีรายงานจากชาวบ้านว่า ในช่วง 1 สัปดาห์นี้ในพื้นที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ แหล่งเลี้ยงหมูชื่อดังของ จ.เชียงใหม่ มีทั้งกลุ่มชาวบ้านเลี้ยงแบบเปิด และมีฟาร์มขนาดใหญ่ ที่เลี้ยงหมูแบบปิด
ตรวจสอบพบว่า หมูติดเชื้อโรคจริง ที่หมู่ 5 และ หมู่ 6 บ้านน้ำจำ ต.ร้องวัวแดง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ พบว่า ทางเจ้าของฟาร์มเลี้ยงหมูกับเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอสันกำแพง และเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ อ.ดอยสะเก็ด ระดมกำลังพร้อมกำนันผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชนในพื้นที่ ร่วมทั้งเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับ
ด้านสาธารณสุขของ อ.สันกำแพง ได้ลงพื้นที่ร่วมกันในการกำจัดหมูในฟาร์มแบบเปิด รวมฟาร์มต่าง ๆ จำนวนกว่า 20 แห่ง รวมหมู่ที่จะต้องกำจัดจำนวนกว่า 1,000 ตัว ได้ประมาณการความเสียหายไว้เบื้องต้นคาดว่ามากกว่า 6 ล้านบาท ได้เริ่มกำจัดหมูตลอดวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมาแล้ว
โรคหมูเริ่มระบาดในพื้นที่แรก ในฟาร์มหมู่แห่งหนึ่งในหมู่ 6 บ้านน้ำจำ ต.ร้องวัวแดงก่อน พอเจ้าของฟาร์มทราบว่าหมูติดเชื้อ ได้แจ้งไปที่เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เพื่อทราบทันที ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา ปศุสัตว์อำเภอร่วมกับทางอำเภอและกำนันผู้ใหญ่บ้านได้ร่วมประชุมสรุปปัญหา เพื่อระงับการแพร่ระบาดของโรคหมูทันที โดยที่ประชุมสรุปเบื้องต้นว่า จะต้องกำจัดหมูทั้งหมดในรัศมีวงกว้าง 1 กม. ที่มีฟาร์มหมูเลี้ยงอยู่
ก่อนจะกำจัดหมูทั้งหมด ได้แจ้งให้เจ้าของฟาร์มหมูทราบแล้ว ส่วนใหญ่เป็นฟาร์มแบบเปิดของชาวบ้านในพื้นที่ ให้เจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลเรื่อง ขุดหลุมลึก 4 เมตร ในฟาร์มของเจ้าของฟาร์มแต่ละราย รวมจำนวนฟาร์มเลี้ยงหมูมีมากกว่า 20 แห่ง หมู่บ้านแห่งนี้นิยมเลี้ยงหมูกันจำนวนมากมานานแล้ว หมูที่จะต้องถูกฆ่าโดยผ่าท้องและผ่าไส้หมูก่อน เพื่อไม่ให้เกิดแก๊ส แล้วฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อและใส่ผงขาวในหลุม จากนั้นก็ฝังหมูของแต่ละฟาร์มลงไปในหลุมทั้งหมดในพื้นที่ฟาร์มของแต่ละแห่ง ซึ่งชาวบ้านก็ให้ความรวมมือทั้งหมดทุกฟาร์ม และทางรัฐบาลจะจัดเงินงบประมาณจ่ายชดเชยให้เจ้าของหมู 70% ของน้ำหนักหมูแต่ละตัวที่ถูกกำจัดในครั้งนี้
ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ทำงานในวันที่ 10 ต.ค. ตลอดทั้งวัน พบชาวบ้านเจ้าของฟาร์มรายหนึ่งบอกว่า วัเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ นำรถแม็คโครนำลงพื้นที่ในหมู่บ้านน้ำจำ หมู่ 5 และหมู่ 6 รวมจำนวน 4 คัน เริ่มกำจัดหมูที่หมู่ 6 ก่อน และกำจัดหมูตามขั้นตอนดังกล่าวข้างต้น แต่ชาวบ้านยังไม่แน่ใจจะได้รับค่าชดเชยได้ครบหรือเปล่า เพราะบางรายไม่ได้แจ้งจำนวนหมูที่เลี้ยงไว้กับปศุสัตว์ แต่สำหรับผู้ที่แจ้งจำนวนหมูไว้กับทางปศุสัตว์ จะได้ ค่าตอบแทน จำนวน 70% คิดจากยอดราคาน้ำหนักหมูขายจริงแต่ละตัว เพื่อไม่ให้เจ้าของหมูแอบนำหมูออกไปนอกพื้นที่ในช่วงเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการกำจัด
ส่วนสาเหตุการเกิดโรคระบาดนั้น ชาวบ้านบอกว่า ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด อาจมาจากฟาร์มเอง ที่นำหมูติดโรค เข้ามาเลี้ยงเอง หรืออาจจะเกิดจากคนที่เดินทางมาติดต่อซื้อหมูในฟาร์มแล้วเอาเชื้อโรคเข้าไปในฟาร์มก็เป็นได้
ชาวบ้านอีกคนหนึ่ง บอกว่า ปัญหามันเกิดขึ้นในวันแรกของการทำงานช่วงกำจัดหมู ในวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา คือ เจ้าของรถแม็คโครที่นำรถมาขุดหลุมฝังซากหมู บอกราคา คันละ 4,000 บาทต่อวัน ก็ให้เจ้าของฟาร์มหมูจ่าย รวมทั้งค่ายาฆ่าเชื้ออื่น ๆ ด้วย และยังขุดในที่ดินของชาวบ้านอีกด้วย ตอนแรกนึกว่าจะนำซากหมูออกไปฝังกลบในที่อื่น หรือที่ที่เหมาะสม ส่วนขุดในที่ดินของฟาร์มเมื่อขุดแล้วชาวบ้านบอก ก็ไม่เป็นไร เมื่อขุดแล้วก็ฝังให้เสร็จให้เร็ว ๆ โรคจะได้ไม่ระบาด
อีกปัญหา คือ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์บอกให้ชาวบ้านเจ้าของฟาร์มหมูที่ถูกกำจัดไปนั้น ขอให้หยุดการเลี้ยงหมูทิ้งระยะห่างให้นานประมาณ 6 เดือนอีกด้วย จนกว่าโรคระบาดจะหายไป ก็เหมือนกับว่าต้องปิดฟาร์มเลี้ยงหมูยาวไปเลย ฟาร์มบางแห่งก็ต้องปิดกิจการเลี้ยงหมูตลอดไป และการเกิดโรคหมูครั้งนี้เท่ากับว่าไปเข้าทางฟาร์มหมูแบบปิด คือ เข้าทางฟาร์มหมูรายใหญ่ในอำเภอใกล้เคียงที่อยู่นอกรัศมี 1 กม. ยังให้เปิดเลี้ยงได้ตามปกติในขณะนี้ ชาวบ้านบอก
อย่างไรก็ตาม นักข่าวได้ติดต่อไปทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอสันกำแพง (ทางโทรศัพท์) ปศุสัตว์อำเภอสันกำแพง ได้บอกมาเพียงว่า ปัญหาโรคหมูติดเชื้อ ขอให้สื่อมวลชนไปสอบถามที่ปศุสัตว์จังหวัดเท่านั้น ในระดับอำเภอกำลังปฏิบัติงานกำจัดหมูอยู่
ที่มา chiangmainews
No comments:
Post a Comment