จากกรณีการเสียชีวิตปริศนาของ น้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ เหตุเกิดที่บ้านกกกอก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 63 กระทั่งไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานเพื่อตรวจหาDNAแฝงแต่ผ่านไปเดือนกว่าแล้วก็ยังไม่สามารถคลี่คลายคดีได้
ล่าสุด ผบ.ตร. ระบุว่า ดีเอ็นเอที่ตรวจไม่เหมือนกับคดีอื่นๆ โดยมีการเก็บเส้นผมจากที่เกิดเหตุ โดยตรวจไม่พบรากผม ทำให้ตรวจได้เฉพาะดีเอ็นเอสายมารดาอย่างเดียว ตามปกติตรวจนิวเคลียสดีเอ็นเอ จะใช้ในการยืนยันตัวบุคคลได้ แต่ต้องมีรากผม มีเซลล์ที่รากผม แต่ผมที่ได้ไม่มีราก ครั้งนี้จึงเป็นการตรวจอีกแบบ เป็นการตรวจไมโตคอนเดรียดีเอ็นเอ เป็นการทดสอบอีกแบบ หมายความว่า ถ้ามีไมโตคอนเดรียดีเอ็นเอ ตรงกับผู้ใด ไม่ได้หมายความว่า เป็นคนร้าย แต่อยู่ในเครือญาติ กับคนร้าย
ทั้งนี้ ลุงพล ได้เปิดใจ ไม่อยากกังวลใจอะไรมาก ในการแถลงท่านไม่ได้เปิดโอกาสให้เราถามอะไรมาก แค่อยากถามสั้นๆ เท่านั้น ว่า ผลการตรวจดีเอ็นเอ ตรงกับผู้หญิงฝ่ายแม่เท่านั้น ซึ่งไม่เกี่ยวกับลุงอยู่แล้ว โดย ผบ.ตร. บอกแล้วว่า ใครเป็นผู้ต้องสงสัย ดังนั้น ก็เป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งหมด สบายใจเพราะดีเอ็นเอเป็นฝ่ายผู้หญิง
ส่วนทางด้าน ป้าแต๋น ก็เผยว่า ตนไม่ได้กังวลใจ เเม้ผลตรวจดีเอ็นเอของตำรวจออกมา จะตรงกับดีเอ็นเอฝ่ายแม่ ซึ่ง ตนเองมีการสัมผัสตัวน้องชมพู่ก่อนหน้า ไม่ใช่วันที่ 11 พ.ค. และยืนยันไม่ได้ขึ้นเขาเหล็กไฟไปด้วย ที่สำคัญในวันที่ 14 พ.ค. เป็นวันที่พบร่างน้องชมพู่นั้น เครือญาติไม่มีใครขึ้นเขาเหล็กไฟเลย
No comments:
Post a Comment