ภายหลังจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้แถลงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ที่สโมสรตำรวจ ช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้ และมีการระบุถึงการสืบสวนหาตัวคนร้ายในช่วงเวลาที่ชมพู่หายตัวไปและเสียชีวิต ระหว่าง 12 พ.ค. 63 เวลา 14.30 น. ถึงวันที่ 13 พ.ค. 63 เวลา 14.30 น. นั้น
ความคืบหน้าคดีอยู่ที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ความเคลื่อนไหวของนางสาวิตรี และนายอนามัย วงศ์ศรีชา พ่อและแม่ของน้องชมพู่ เดินทางไปที่สวนยางพารา เพื่อหยอดน้ำกรดที่สวนยางพารา โดยมีสีหน้าปกติ และพูดคุยตอบโต้กับทีมข่าวเช่นเคย
นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ลุงของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ตนมองว่าสาเหตุที่แม่น้องชมพู่ยอมรับว่าขึ้นเขาภูเหล็กไฟในช่วงเช้ามืดวันที่ 12 พ.ค. 63 ก่อนหน้านี้ เพราะว่ามีพยานหลายคน
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
อีกทั้งช่วงเช้าของวันที่ 12 พ.ค. ก่อนที่ตนจะเดินทางไปรับหมอธรรมผลที่จังหวัดร้อยเอ็ด ก่อนออกเดินทาง ป้าแต๋นก็ได้เข้าไปที่บ้านน้องชมพู่ เพื่อปรึกษาทางครอบครัวของน้องชมพู่ ก็พบเพียงน้าต่ายและยายสมควร บอกว่ากับป้าแต๋นว่าพ่อแม่น้องชมพู่ขึ้นเขาไปตามหาลูก และยังไม่เดินทางกลับลงมา
ส่วนไทม์ไลน์ตนวันที่ 12 พ.ค. เวลาตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึงตี 5 นั้น ตนนอนอยู่ที่บ้านตลอด โดยมีป้าแต๋น และลูกชาย 2 คนเป็นพยาน ทั้งนี้ ช่วงวันที่ 11-14 พ.ค. ที่น้องชมพู่หายตัวไปนั้น ตนขึ้นเขาเพียง 2 ครั้งเท่านั้น คือช่วงของวันที่ 12 พ.ค. หลังจากไปรับหมอธรรมผล เวลา 17.00 น. หลังจากได้ข่าวว่ามีคนได้ยินเสียงบนเขา ตน ลุงคล้าย และนายสัตยา ก็ได้เดินทางขึ้นเขาเพื่อตามหาน้องชมพู่ และกลับมาถึงข้างล่าง เวลาประมาณ 21.00 น. ซึ่งลุงคล้ายเป็นคนที่ดูนาฬิกา ส่วนการขึ้นเขาอีกครั้งวันที่ 14 พ.ค. ที่มีเบาะแสเรื่องรอยเท้าเด็ก และสุดท้ายก็ไปเจอศพของน้องชมพู่
นอกจากนี้ สำหรับการแถลงข่าวของตำรวจนั้น ยังมีประเด็นที่ตนยังสงสัยอยู่ คือส่วนที่ตำรวจบอกว่าน้องชมพู่หายไป เวลา 09.11 น. - 09.49 น. ซึ่งย้อนแย้งกับความรู้สึกของตนมาก ตนมองว่าเวลาที่ตำรวจควรจะสืบหาคือต้องไปถามพ่อแม่น้องชมพู่ว่าได้ปล่อยให้น้องชมพู่อยู่กับน้องสะดิ้งตั้งแต่เวลาใด ซึ่งน้องสะดิ้งเคยบอกว่าเผลอหลับตอน 08.50 น. ตื่นตอน 09.01 น. ตนอยากรู้ว่าทำไมตำรวจไม่สืบหาช่วงเวลานี้ด้วย ทำไมตำรวจไปดูแค่เวลาในโน้ตบุ๊กและโทรศัพท์เพียงอย่างเดียว
นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น ป้าของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ตนยืนยันได้ว่าคืนวันที่ 11 พ.ค. ลุงพลนอนอยู่ที่บ้านกับตนตลอดทั้งคืนจนเช้า ซึ่งตนก็ยืนยันได้ว่าลุงพลนอนที่บ้านจริง คนที่รับรู้คือตนและลูกชายอีก 2 คน และตอนเช้าวันที่ 12 พ.ค. ก็ไปรับหมอธรรมผลที่จังหวัดร้อยเอ็ด
ทั้งนี้ ตนก็ไม่รู้ว่าพ่อแม่ชมพู่ขึ้นเขาหรือไม่ แต่ช่วงเช้าวันที่ 12 พ.ค. ก่อนที่จะไปรับหมอธรรมผล ตนได้เข้าที่บ้านน้องชมพู่ เพื่อแจ้งกับครอบครัวน้องชมพู่ว่าจะไปรับหมอธรรม แต่ก็เจอเพียงน้าต่ายและยายสมควร โดยเขาบอกว่าพ่อแม่ของน้องชมพู่ขึ้นไปหาลูกบนเขา ยังไม่ลงกลับมา ตนก็ไม่แน่ใจว่าที่ผ่านมาพ่อแม่ของน้องชมพู่เคยขึ้นเขาหรือไม่
นอกจากนี้ ชาวบ้านละแวกบ้านน้องชมพู่ก็ระบุตรงกันว่าวันที่ 12 พ.ค. 63 ไม่ได้ยินเสียงผิกปกติ โดยนางสาวขวัญใจ เชื้อตาพระ ชาวบ้านกกกอกที่อยู่บ้านหลังท้ายสุดซอยใกล้กับทางขึ้นเขาภูเหล็กไฟ เล่าว่า วันที่ 11 พ.ค. 63 วันที่น้องชมพู่หายตัวไป ตนเองได้ยินเสียงหมาเห่า เฉพาะช่วงเช้าของวันที่ 11 พ.ค. เท่านั้น ส่วนช่วงค่ำไปตามหาถึงช่วงเที่ยงคืน
ต่อมากลางดึกของวันที่ 12 พ.ค. ตนเองได้ยินเฉพาะเสียงชาวบ้านค้นหาน้องชมพู่เท่านั้น และช่วงกลางดึกเวลา 01.00-05.00 น. ตนก็ไม่ได้ยินเสียงความผิดปกติ เนื่องจากตอนนั้นตนนอนหลับอยู่ในบ้าน ส่วนสามีตนก็หลับเช่นเดียวกัน
ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว
No comments:
Post a Comment