วานนี้ (20 ต.ค.2563) นายภุชพงศ์ โนดไธสง รองปลัดกระทรวงกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส ) กล่าวว่า วันนี้ ศาลอาญา มีคำสั่งปิดเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ของ VOICE TV หลังกระทรวงดีอีเอสนำหลักฐานเสนอศาลขอให้พิจารณา หลังพบมีการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ส่วนอีก 4 เว็บไซต์สำนักข่าวที่มีปรากฏไปก่อนหน้านี้ได้เสนอศาลไปเช่นกัน แต่ยังไม่มีคำสั่งมา
"สำหรับการสั่งปิดเพจเป็นช่วง 3-4 วันนี้ ไม่ได้กำหนดวัน แต่หากเป็นเพจลามกอนาจาร ยุยงปลุกปั่นจะปิดถาวร และผู้ให้บริการต้องนำเนื้อหานั้นออก โดยเป็นการนำเสนอตามคำสั่งตามที่เสนอให้ระงับนำเสนอ ส่วนทีวีเป็นของกสทช.ถ้าทำผิดสามารถยึดใบอนุญาตได้"
นายภุชพงศ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีพ.ร.ก.ฮุกเฉินเพราะมีข้อความที่มีลักษณะคล้ายการเชิญชวนมาร่วมชุมนุม
เมื่อวันที่ (19 ต.ค.) สำหรับคำสั่งดังกล่าวสืบเนื่องจากประกาศคำสั่งหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงที่ 4/ 2563 เรื่องให้ตรวจสอบและให้ระงับการออกอากาศรายการที่มีลักษณะฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยปรากฏชื่อ Voice TV ประชาไท Prachatai.com The Reporters THE STANDARD และเยาวชนปลดแอก ในคำสั่งดังกล่าวด้วย
ล่าสุดศาลอาญา ยกคำร้องกรณีกระทรวงดิจิทัลฯ สั่งปิด #VoiceTV ทุกแพลทฟอร์มออนไลน์ โดยผู้พิพากษา พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ม.35 วรรคสองบัญญัติห้ามรัฐปิดสื่อมวลชน เพื่อลดรอนเสรีภาพในการเสนอข่าวสาร
ส่วนที่ศาลมีคำสั่งระงับการแพร่ข้อมูล URL 12 รายการ ซึ่งเป็นการปิดช่องทางการสื่อสารของ Voice TV ประชาไท The Reporters The Standard หรือกลุ่มเยาวชนปลดแอก โดยผู้ร้องไม่ได้แสดงให้ชัดเจนว่า เป็นการขอให้ปิดสื่อทั้งช่องทาง ทำให้ศาลมิได้รู้ข้อเท็จจริงอันถูกต้อง เข้าใจว่าเป็นการปิดเนื้อหาบางส่วน คำสั่งดังกล่าวจึงไม่ถูกต้อง จึงยกคำร้องคดีดังกล่าว
No comments:
Post a Comment