กรณีเรื่องวุ่นวายสาวถูกฉุดกลายเป็นปัญหารักสามเส้าระหว่าง นางหยก หรือส้ม สาวชาวไทใหญ่ อายุ 37 ปี กับสามี คือ นายวิรัตน์ อายุ 45 ปี ที่อยู่กินกันมานานกว่า 14 ปี และนายอ่องยุ่น อายุ 28 ปี ชาวไทใหญ่ หนุ่มคนใหม่ที่พบกันทางเฟซบุ๊ก และลักลอบคบมาได้ 8 เดือน ก่อนที่นายวิรัตน์จะจับได้ในช่วงลอยกระทงที่ผ่านมา ให้นางหยกเลิกกับกิ๊ก จากนั้นนายอ่องยุ่นได้บุกเข้ามาที่ร้านขายของชำที่อยู่ใกล้กับตลาดบ้านท่อ ตำบลป่าตัน อำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นร้านที่นางหยกขายของอยู่ และได้นำตัวนางหยกขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ไป
กระทั่งเมื่อวันที่ 4 พ.ย. ตำรวจตามตัวทั้งสองคนพบ และนำมาเคลียร์ปัญหาที่ สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ โดยในส่วนของคดีนางหยกไม่ติดใจเอาเรื่องกิ๊กหนุ่ม ส่วนปัญหารักสามเส้านางหยกปฏิเสธจะตอบว่าจะเลือกใคร และอ้างว่าขอเป็นเรื่องภายในครอบครัว เพียงแต่รับว่าตัวเองยังลังเลใจอยู่ ขอไปเคลียร์กับสามีก่อน
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบนายวิรัตน์ ที่ร้านขายของชำย่านตลาดบ้านท่อ โดยนายวิรัตน์ยังคงขายของอยู่ที่ร้านเช่นเดิม แต่ไม่พบนางหยก จากการสอบถามนายวิรัตน์ เผยว่า นางหยก ภรรยาตน ได้เลือกไปอยู่กับกิ๊กหนุ่มแล้ว แต่ช่วงเวลาประมาณทุ่มกว่าที่ผ่านมา ภรรยาได้บอกว่าจะกลับบ้านที่อำเภอสันทราย และได้ขอลงรถกลางทาง และให้กิ๊กหนุ่มมารับไป ซึ่งตนก็ได้ขอให้ความรักของทั้งคู่สวยงาม รักกันมั่นคงตลอดไป
นายวิรัตน์กล่าวต่อด้วยเสียงสะอื้นว่า ยอมรับการตัดสินใจของนางหยกที่ไม่เลือกตน และก็ขอให้นางหยกกับกิ๊กหนุ่มครองรักกันยาวนาน ตนเองรู้สึกเสียใจเพราะอยู่กันกับนางหยกมานานกว่า 14 ปี สร้างเนื้อสร้างตัวมาด้วยกันตั้งแต่ขี่รถจักรยานคันละ 600 บาท ขายของอยู่ที่ตลาดเมืองใหม่ จนมีร้านขายของชำ และซื้อบ้าน ซื้อรถมีครบทุกอย่าง
นายวิรัตน์ กล่าวอีกว่า แม้จะเลิกกันแล้ว แต่ตนก็ยังเลี้ยงดูแม่ และบุตรของอดีตภรรยาอยู่เช่นเดิม เพราะถือว่าทุกคนเป็นครอบครัวที่ลำบากมาด้วยกันไม่คิดจะทอดทิ้ง และหลังจากนี้ตนก็จะตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน เพื่อสร้างเนื้อสร้างตัวต่อไป
ขณะที่ฝ่ายของนายอ่องยุ่น และนางหยก ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปทางโทรศัพท์ แต่ทั้งคู่ไม่สะดวกที่จะพูดคุยด้วย
No comments:
Post a Comment