วันนี้ (29/12/2563) ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.นครสวรรค์ โดย พ.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา รอง ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ร่วมกันแถลงผลจับผู้ต้องหาร่วมกันปลอมเงินตรา โดยมีผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายนัทธพงศ์ นาคพาสิงห์ อายุ 27 ปี และ น.ส.ศศินภา นาคพาสิงห์ อายุ 21 ปี ทั้งคู่เป็น ชาว อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ และถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา พร้อมของกลางธนบัตรปลอมแบบถ่ายเอกสารสี ซึ่งเป็นแบงก์ 500 บาท จำนวน 1 ใบ แบงก์ 100 บาท จำนวน 609 ใบ รวมถึงเครื่องปริ้นเตอร์สีที่ใช้ปลอมแปลงธนบัตรรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ดรีม สีชมพูขาว ทะเบียน 1กฎ 5882 นครสวรรค์ โทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง และบัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อ นายนัทธพงศ์ นาคพาสิงห์ มีเงินในบัญชี 154,000 บาท
สำหรับพฤติการณ์ของ 2 ผู้ต้องหารายนี้ ถูกเปิดเผยเมื่อตัวแทนของบริษัท บ้านเทเลคอม (2005) จำกัด ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องเรียนกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ เมื่อลูกค้าหลายเจ้า ซึ่งเป็นเจ้าของตู้เติมเงินบุญเติม และตัวแทนให้บริการเติมเงินผ่านระบบออนไลน์ ในพื้นที่ อ.เมืองนครสวรรค์ ได้แจ้งเข้ามายังบริษัทว่า มีบุคคลไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด ใช้ธนบัตรปลอม ที่ทำจากการถ่ายเอกสารสี ฉบับละ 500 และ 100 บาท มาใช้กับตู้เติมเงินบุญเติม และให้โอนเข้าระบบบัญชีธนาคารกสิกรไทย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 60,900 บาท
จึงได้มีการเริ่มกระบวนการสืบสวนสอบสวน ตรวจภาพกล้องวงจรปิด ก็พบภาพของผู้ต้องสงสัยเป็นชายหนุ่มและหญิงสาว ใช้รถจักรยานยนต์สีชมพูขาว ขับขี่ตระเวนไปเติมเงินกับตู้ตัวแทนหลายจุด ประกอบกับทางบริษัท ได้มีการเช็กชื่อบัญชีธนาคารที่รับโอนเงินด้วย จึงทำให้ทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายนัทธพงศ์ และ น.ส.ศศินภา ซึ่งทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน และมีถิ่นพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.หนองบัว จึงได้รวบรวมหลักฐานก่อนจะขออนุมัติหมายค้นไปตรวจสอบที่บ้านของทั้งคู่ พบหลักฐานแบงก์ปลอมจำนวนหนึ่ง รวมถึงเครื่องปริ้นเตอร์ที่ใช้ทำธนบัตรปลอม และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐานก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวนในเบื้องต้น นายนัทธพงศ์ และ น.ส.ศศินภา ต่างให้การยอมรับสารภาพว่ามีการใช้ธนบัตรปลอมไปเติมเงินของตู้บุญเติมเพื่อฝากเข้าบัญชีธนาคารจริง โดยมีการศึกษาวิธีการทำแบงก์ปลอมมาจากคลิปแอปพลิเคชั่น TikTok และนำมาลองทำเอง ซึ่งมีการลงทุนซื้อเครื่องปริ้นเตอร์ยี่ห้อดังมา 1 เครื่อง มาทำการสแกนภาพกับธนบัตรจริงก่อนจะมีการปรินท์สีออกมา ส่วนกระดาษที่นำมาปริ้นก็จะใช้กระดาษจากเครื่องปริ้นเตอร์ยี่ห้อนั้น และเมื่อปริ้นออกมาแล้ว แม้จะรู้สึกได้ว่าไม่เหมือนแบงก์จริงร้อยเปอร์เซ็นต์
แต่เมื่อเอาไปลองกับตู้เติมเงินมือถือของตู่บุญเติมแล้ว กลับใช้เติมเงินเข้าระบบมือถือได้ปกติ จึงได้คิดการใหญ่ ด้วยการลงทุนทำธนบัตรปลอม ทั้งแบงก์ 500 และแบงก์ 100 บาท ไปตระเวนเติมตามตู้เติมเงินของบุญเติม เพื่อเปลี่ยนจากเงินปลอมให้กลายเป็นเงินจริง นำฝากเข้าระบบบัญชีธนาคารของกสิกรไทย ชื่อบัญชีของนายนัทธพงศ์ โดยได้มีการใช้รถจักรยานยนต์ขี่จาก อ.หนองบัว เข้าพื้นที่ อ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อนำแบงก์ปลอมไปเติมเงินเข้าตู้บุญเติม และผันเงินผ่านเข้าบัญชี จำนวน 62 ครั้ง เป็นเงินไปแล้วกว่า 60,900 บาท ส่วนเงินที่ได้ มีการนำไปใช้จ่ายส่วนตัว กับตระเวนท่องเที่ยว จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.ฐานิษฏ์ นันทาวิศิษฐ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนครสวรรค์ ระบุด้วยว่า ความผิดปกติของระบบตู้เติมเงินบุญเติม จากการสอบถามทีมตัวแทนของบริษัท บ้านเทเลคอม (2005) จำกัด แล้ว ทราบว่า มีปัญหาทางระบบในตัวเซ็นเซอร์แสกนแบงก์ของแต่ละเครื่อง ซึ่งเครื่องที่มีความบกพร่องนั้น มีเป็นบางตู้เท่านั้น ที่ไม่สามารถแสกนจับตรวจแบงก์ปลอมได้ และทางบริษัทจะมีการนำปัญหาดังกล่าวกลับไปแก้ไขต่อไป
เบื้องต้น นอกจาก นายนัทธพงศ์ และ น.ส.ศศินภา จะถูกแจ้งข้อหาร่วมกันปลอมเงินตราแล้ว ยังถูกแจ้งอีกข้อหาฐานร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุมด้วย จากนั้น ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งคู่ พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนไปดำเนินคดีตามกฏหมายในขั้นตอนต่อไป
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน
No comments:
Post a Comment