เว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซ ได้รายงานเรื่องราวของครอบครัวหนึ่ง ที่อยู่ ๆ ชีวิตครอบครัวอันแสนสุขได้พังทลายลง ด้วยสาเหตุสุดช็อก โดยหญิงผู้เจ็บช้ำรายนี้มีชื่อว่า NH เธอเป็นชาวเวียดนาม ที่ย้ายมาอาศัยอยู่กับสามีในประเทศออสเตรเลีย ที่ผ่านมาเธอมีชีวิตครอบครัวที่แสนสุข มีสามีที่ดี และมีลูกชายที่น่ารัก 4 คนด้วยกัน อย่างไรก็ตามเธอกับสามียังอยากมีลูกสาวมาสร้างสีสันในบ้านอีกสักคน
ภาพจาก ettoday.net
ประจวบเหมาะกับช่วงเวลานั้น น้องสาวของ NH ได้เผชิญปัญหาทางด้านการเงิน ทำให้ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกสาวได้ ด้วยเหตุนี้ NH เลยตัดสินใจที่จะรับหลานมาเลี้ยงเป็นลูกแทน นับเป็นทางออกที่แฮปปี้กันทุกฝ่าย นอกจากจะได้ช่วยน้องสาวแล้ว เธอกับสามีก็จะได้มีลูกสาวสมใจเสียที
โดยหลานคนนี้มีชื่อว่า M อายุราว 6-7 ขวบ หลังจากที่รับหลานมาเลี้ยง เด็กคนนี้ก็เข้ากับน้องชายทั้ง 4 คนได้เป็นอย่างดี แถมยังเริ่มสนิทกับสามีของ NH มากขึ้นเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ NH ไม่เคยรู้ก็คือ ตลอดช่วงเวลา 10 ปีหลังจากที่รับหลานคนนี้มาเลี้ยง M กับสามีของเธอก็เริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้น เด็กน้อยเติบโตขึ้นเป็นสาวทีละนิด รูปร่างของเด็กน้อยค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเด็กสาววัยแรกแย้ม แถมยังมีรูปร่างผอมบางชวนมอง กระทั่งในจุดหนึ่ง หลานสาวคนนี้ก็ได้ขยับความสัมพันธ์จากหลานรัก กลายมาเป็นชู้รักของสามีเธอ
ในขณะที่ M มีเซ็กส์กับสามีของ NH ตอนที่เธอไม่อยู่บ้าน ทางฝ่าย NH ก็ไม่เคยระแวดระวังหลานสาวคนนี้เลย เพราะเด็กสาวมักจะเรียกขานเธอว่า "แม่" อย่างสนิทสนม เธอรักและเอ็นดูเด็กคนนี้มากไม่ต่างจากลูก
กระทั่งวันหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ NH เริ่มสังเกตว่ารูปร่างของหลานสาวดูเปลี่ยนไป แถมสามีของเธอก็ยังทำตัวเหินห่างขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นหลังจากค้นหาความจริง และพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ในที่สุด NH ก็ค้นพบความจริงอันโหดร้าย ว่าหลานสาวตัวดีได้ตั้งครรภ์กับสามีของเธอ
ฉันพบว่าสามีถูกหลานสาวขโมยไปแล้ว และฉันก็ไม่อยากทนกับเรื่องพรรค์นี้อีก ฉันตัดสินใจเผชิญหน้ากับ M ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และตัดสินใจยุติชีวิตสมรสกับสามีของฉัน NH กล่าว
แต่สิ่งเลวร้ายที่สุดที่ NH เพิ่งทราบก็คือ แม่แท้ ๆ ของ M รับรู้สัมพันธ์ฉาวที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด แต่แทนที่จะห้ามลูกตัวเอง กลับช่วยกันปิดบังเรื่องนี้ไว้ไม่ให้ NH ทราบ
ในตอนนี้ NH ตัดสินใจที่จะตีตัวออกห่างจากหลานสาวจอมลวงโลก และสามีที่ไม่ซื่อสัตย์แล้ว และได้นำเรื่องนี้มาปรึกษากับทนายเพื่อจะดำเนินการเรื่องอื่น ๆ ต่อไป ขณะที่ทนายของเธอมองว่า M น่าจะตั้งใจทำแบบนี้เพราะหวังผลด้านสถานะของตัวเองขณะอยู่ในออสเตรเลีย
ขอบคุณข้อมูลจาก เวิลด์ออฟบัซ
No comments:
Post a Comment