สิบเนื่องจากกรณีที่คณะรัฐมนตรี เห็นชอบอนุมัติ โครงการ เราชนะ ภายใต้กรอบวงเงินไม่เกิน 210,200.0000 ล้านบาท เพื่อเป็นการลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนด้วยการสนับสนุนเงินช่วยเหลือจำนวนไม่เกิน 3,500 บาทต่อคนต่อเดือน จำนวนประมาณ 31.1 ล้านคน จะสามารถใช้จ่ายเงินสนับสนุนได้ตั้งแต่กุมภาพันธ์ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2564 โดยจะมีการแบ่งจ่ายเป็นรายสัปดาห์ รวม 8 สัปดาห์ จนกว่าจะครบ 7,000 บาท
โดยกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 31.1 ล้านคน ประกอบไปด้วย 1.ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 18 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป 2.ไม่ใช่ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 3.ไม่ใช่ข้าราชการและข้าราชการการเมือง พนักงานราชการ พนักงาน ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ 4.ไม่เป็นผู้รับบำนาญปกติหรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ 5.ไม่มีเงินได้พึงประเมินเกิน 300,000 บาทในปีภาษี 2562 6.ไม่มีเงินฝากทุกบัญชี 500,000 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562
ทั้งนี้จากการประกาศมาตรการดังกล่าวได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเป้าหมายการจ่ยเงินเยียวยาในรอบยนี้ ซึ่งล่าสุดทางเพจไทยคู่ฟ้าได้ไลฟ์สด โดยมี อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกรัฐบาล มาชี้แจงในประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ โดยช่วงหนึ่งได้กล่าวว่า
ในครั้งนี้นั้นต้องยอมรับเลยว่าคนไทยได้รับผลกระทบทุกคน และรัฐบาลไม่สามารถเยียวยาคนไทยทั้งหมด 66 ล้านคนในเวลาเดียวกันได้ ซึ่งแต่ละมาตรการก็จะมีการช่วยเหลือประชาชนในแต่ละกลุ่มอยู่แล้ว เช่นกลุ่มผู้ประกันตน ม.33 ในส่วนนี้สำนักงานประกันสังคมก็จะมีมาตรการต่างๆที่จะมาช่วยเหลือ
ซึ่งก็ได้มีการออกมาตรการต่างๆ มาก่อนที่รัฐบาลจะอนุมัติโครงการเราชนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลดการสมทบเงิน หรือเรื่องของการลดอัตราการสะสมเงินเข้าสำนักงานประกันสังคม หรือการที่ผู้ได้รับการเลิกจ้าง ก็สามารถที่จะขอความช่วยเหลือในส่วนของการตกงานกับทางด้านประกันสังคมได้ ซึ่งเงินที่จะได้รับช่วยเหลือมากกว่าจำนวนเงินที่จะเยียวยาในครั้งนี้ด้วยซ้ำไป ฉะนั้นกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่รัฐบาลมองแล้ว อีกทั้งยังผ่านการกลั่นกรองผ่านการตรวจสอบจากสภาพัฒน์และกระทรวงการคลัง ก็เห็นชอบว่ามาตรการที่จะออกมานั้นมีความเหมาะสมหรือไม่
No comments:
Post a Comment