นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลักเกณฑ์การเยียวยา 3,500 บาท ระยะเวลา 2 เดือนนั้น มีหลักเกณฑ์ที่แตกต่างออกไปจากครั้งก่อน โดยครั้งนี้จะเป็นการพิจารณาหลักเกณฑ์จากฐานข้อมูลที่มีอยู่แล้วนำมาพิจารณาการจ่ายเงินเยียวยา ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ โดยแรงงานในระบบหรือข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่ยังช่วยเหลือตัวเองได้ จะไม่นำมาพิจารณาในครั้งนี้ ดังนั้นส่วนที่เหลืออยู่จะได้รับการเยียวยา เบื้องต้นอยู่ที่ประมาณ 35 - 40 ล้านคน โดยในวันอังคารนี้จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี และมีความชัดเจน ซึ่งในส่วนของกลุ่มเปราะบาง 14 ล้านคน ก็จะได้รับการเยียวยาอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ผู้ที่เคยลงทะเบียนในแอปพลิเคชันต่างๆ และมีฐานข้อมูลในแอปพลิเคชันเป๋าตัง อาจจะไม่ต้องลงทะเบียนซ้ำ เพราะมีฐานข้อมูลอยู่แล้ว แต่รัฐบาลก็จะมีมาตรการคัดกรองอย่างรอบคอบ
ส่วนความคืบหน้า การเปิดช่องทางสายด่วน 24 ชั่วโมง หรือทุกแพลตฟอร์ม 1111 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนร้องเรียนเรื่องการทุจริตต่อนายกรัฐมนตรีโดยตรง นั้น โฆษกรัฐบาล ย้ำนายกรัฐมนตรี จะนำเรื่องร้องเรียนให้ไปสู่การแก้ปัญหาอย่างแท้จริง ไม่ใช่เข้มงวดเฉพาะเวลาที่นายกรัฐมนตรีสั่งการเท่านั้น โดยข้อมูลจะถูกเก็บเป็นความลับ ไม่ถูกเผยแพร่ไปยังหน่วยงานที่ถูกร้องเรียนเด็ดขาด ทั้งนี้จะมีหน่วยงานกลั่นกรองและรายงานโดยตรงต่อนายกรัฐมนตรี พร้อมระบุ คณะกรรมการ 2 ชุด ที่ตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบและเอาผิดอย่างจริงจัง จะเดินหน้าทำงานแบบตรงไปตรงมา ขอประชาชนมั่นใจได้
No comments:
Post a Comment