วันที่ 9 มกราคม 2564 ทีมข่าว siamnews รายงานว่า ลุงพล เปิดใจกับสื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นการสอบปากคำว่า ไม่ได้รู้สึกกังวลหรือหนักใจ ตนให้ความร่วมมือทุกอย่าง เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้กดดันอะไร กระบวนการเข้าเครื่องจับเท็จ คือติดเครื่องวัดชีพจร หากมีการโกหก กราฟก็จะมีความผิดปกติ ส่วนคำถามที่ผ่านมีไม่เกิน 10 คำถาม แต่จะถามวนไปประโยคเดิม ๆ ทำได้แค่ตอบใช่หรือไม่ ไม่สามารถอธิบายอย่างอื่นได้ ตนไม่รู้ว่าเครื่องจับเท็จมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน แต่ก็ตอบทุกอย่างไปตามความเป็นจริง เชื่อว่าเจ้าหน้าที่จะรอบคอบ ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
ลุงพล มองว่า การเข้าเครื่องจับเท็จครั้งนี้อาจจะช้าเกินไป ถ้าเป็นช่วงแรกอาจจะจับพิรุธได้ดีและมากกว่านี้ ซึ่งตนอยากฝากถึงคนที่ติดตามข่าว ขอให้ดูข่าวให้รอบคอบ อย่าเชื่ออะไรง่าย ๆ ตนเองขอยืนยันคำเดิมว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหลาน ทุกครั้งที่ถูกถามถึงหลานก็รู้สึกเสียใจจนอยากจะร้องไห้ สุดท้ายตนอยากเรียกร้องให้คนที่ทำหลาน ออกมาแสดงความรับผิดชอบและเข้ามอบตัว เชื่อว่าจะไม่ถูกลงโทษหนัก
ด้าน ป้าแต๋น เปิดเผยว่า การเข้าเครื่องจับเท็จในครั้งนี้ ถูกถามคำถามเดิม ๆ ทำให้ตนเองและสามี คิดถึงหลานสาวมากขึ้นไปอีก ส่วนกระบวนการในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ให้ตนและสามีเซ็นชื่อบนเอกสารในฐานะพยาน เมื่อเสร็จสิ้นขบวนการ ยอมรับว่ารู้สึกโล่งอก และไม่ได้รู้สึกเครียดหรือกังวลใจ
ส่วนบรรยากาศขณะที่ลุงพล เข้าไปสอบปากคำจนเสร็จสิ้น ก็ได้มียูทูบเบอร์ที่เป็นแฟนคลับของลุงพลจำนวนมากทำการไลฟ์บรรยากาศ พร้อมมีแฟนคลับบางส่วนสั่งดอกกุหลาบมามอบให้กับลุงพลและป้าแต๋น และตะโกนให้กำลังใจ ซึ่ง ลุงพล และป้าแต๋น ได้รับดอกไม้ไว้ ก่อนจะขึ้่นรถกลับบ้านกกกอก ที่ จ.มุกดาหาร ทันที
No comments:
Post a Comment