วันที่ 10 ม.ค.2564 นายศรชัย ฉัตรวิริยะชัย ผู้แต่งหนังสือ “เอนหลังพิง” นามปากกา “ภินท์ ภารดาม” ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Sonny Chatwiriyachai ระบุว่า เรื่องของคุณ #พิมรี่พาย เห็นคนเขียนกันมาเยอะแต่ยังไม่มีใครพูดแทนใจผมได้เป๊ะ เลยขอเขียนบ้างละกัน ข้อชื่นชม
1.ชื่นชมที่คุณพิมรี่พายใช้ตังค์ส่วนตัวในการบริจาคให้กับชาวดอย เธอไม่ได้เพิ่งมีพฤติกรรมแบบนี้ แต่ทำมานาน จนสรุปได้ว่านั่นเป็นนิสัยคู่ตัว
2.ชื่นชมความเป็นนักปฏิบัติ โลกเรามีนักพูดเยอะมาก แต่ไม่ลงมือทำ การลงมือทำของเธอโดยไม่ต้องรอเหนือรอใต้ ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้จริง
3.ความสามารถในการสร้างทีมงาน ที่พร้อมลุยและทำงานอย่างจริงจังร่วมหัวจมท้ายไปกับเธอ นี่เป็นความสามารถของการเป็นผู้นำตัวจริงอย่างไม่ต้องสงสัย
ดังนั้น ผมไม่มีปัญหากับคนที่ชื่นชอบการกระทำของคุณพิมรี่พาย แต่อย่างใด ดังที่กล่าวไปแล้ว และหลักฐานบางตัวก็มีให้เห็นอยู่ ว่าการพัฒนาแบบนั้นไม่คุ้มกับตังค์ที่ลงไป แต่ด้วยความที่ผมเป็นคนทำงานในสายงานของสังคมสงเคราะห์ ผมก็อดที่จะหยิบยกหลักปฏิบัติที่ผมยึดถือมาเปรียบเทียบไม่ได้ ผมขอสรุปว่า ผมไม่เห็นด้วยกับการกระทำของคุณพิมรี่พาย แต่ผมมองว่า
ถ้าหากคุณพิมรี่พายเข้าไปเรียนรู้กับชาวดอย และใช้เวลาอยู่บนดอยมากหน่อย ใช้เวลาสังเกตการณ์มากหน่อย ทำให้น้อย ดังที่เปาโล แฟร์ว่า คุณต้องมี Action ที่ประกอบด้วย Reflection แล้วอาจจะมองเห็นเองว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ต้องทำ ไม่ปล่อยให้อารมณ์หรือ sense of false superiority หรือ ความกรุณาแบบอัตโนมัติเข้าทำงาน จะมองเห็นหนทางที่จะหยิบยี่นความช่วยเหลือได้ยั่งยืนกว่านี้ อย่างน้อยต้องศึกษาเรื่องการทำไร่ตามภูมิปัญญาชาวเขา ซึ่งไม่ใช่ไร่เลื่อนลอยอย่างที่รัฐหลอกลวงเรา เอาเป็นว่ายังเชียร์คุณพิมรี่พาย เพราะการทำงานของเธอในฐานะ สามัญชนซึ่งเป็นชนชั้นพ่อค้าวานิชมีคุณูปการทำให้เกิดแรงกระเพื่อมของสังคมให้หันมาถกกันเรื่องนี้ รวมทั้งเปรียบเทียบ กับชนชั้นศักดินา ส่วนสินค้าคงไม่ซื้อเพราะเธอคงรวยอยู่แล้ว และทำใจไม่ได้ที่งานสังคมกับงานกิจการของเธอมันมีเส้นแบ่งแค่บาง ๆ
ขอบคุณ Sonny Chatwiriyachai
No comments:
Post a Comment