วันที่ 23 ก.พ.2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เปิดเผยภายหลังเดินทางเข้าหารือกับ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ถึงแนวทางช่วยเหลือแรงงานที่เข้าร่วม ม.33 เรารักกัน กลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ให้สามารถลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 4,000 บาทในโครงการ ม.33 เรารักกัน ให้รวดเร็ว เนื่องจากกลุ่มแรงงานมีความกังวลหากหมดเขตการลงทะเบียนแล้วจะไม่ได้รับสิทธิ์
รมว.แรงงาน กล่าวว่า จากการสอบถามข้อมูลฝ่ายบุคคลบริษัทด้านการเกษตรขนาดใหญ่ พบว่ามีพนักงานไม่มีสมาร์ทโฟนกว่า 1,000 คน ส่วนใหญ่จะเป็นผู้อายุ 50 ปีขึ้นและอยู่ในกลุ่มเกษตรกร ซึ่งกระทรวงแรงงานได้ประสานกับธนาคารกรุงไทย และสำนักงานประกันสังคมจังหวัด เพื่อไปตั้งโต๊ะรับลงทะเบียนตามโรงงานต่างๆ แต่หากมีจำนวนไม่มากก็ให้ไปลงทะเบียนที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัด
โครงการ ม.33 เรารักกัน เป็นสิทธิ์เฉพาะตัว ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ไม่ต้องรีบมาลงทะเบียนและไม่ต้องรีบยืนยันสิทธิ์ ซึ่งยังสามารถทยอยลงทะเบียนได้จนถึงวันที่ 7 มีนาคม 2564 และยังสามารถกดรับสิทธิ์ได้จนถึงวันที่ 12 เม.ย.2564 แต่ต้องใช้เงินให้หมดภายในวันที่ 31 พ.ค.2564 มาตรการนี้ใช้งบ 37,000 ล้านบาท จากจำนวนผู้ประกันตน 9 ล้านกว่าคน จะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 5-7 รอบ ทำให้จีดีพีไตรมาส 3 และ 4 เติบโตอย่างแน่นอน เนื่องจากเงินที่รัฐบาลให้ ไม่ใช่เงินสดแต่เป็นเงินที่ต้องใช้จ่ายทันที
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้หารือกับ รมว.คลัง เกี่ยวกับการแก้ไข พ.ร.บ.ประกันสังคม เพื่อนำเงินในกองทุนประกันสังคมที่มีอยู่ 2.2 ล้านล้านบาทมาใช้เนื่องจากปัจจุบันกฎหมายบังคับไม่ให้นำเงินไปใช้นอกวัตถุประสงค์ โดยเฉพาะเงินในกองทุนชราภาพที่มีอยู่ 1.8 ล้านล้านบาท เพื่อให้ผู้ที่ต้องการใช้เงินในภาวะฉุกเฉิน สามารถนำเงินมาใช้ได้ก่อนเกษียณอายุ ภายในสิ้นเดือนก.พ. 2564 กระทรวงแรงงานจะจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ เพื่อแก้ไข พ.ร.บ.ประกันสังคมทั้งระบบ หลังจากนั้นจะเสนอ ครม.ขอความเห็นชอบต่อไป
ด้าน นายอาคม กล่าวว่า ให้ทางกระทรวงการแรงงาน ไปศึกษาแนวทางดังกล่าวให้รอบคอบ คลังยังไม่ได้มีการพิจารณาอะไร
No comments:
Post a Comment