น.ส.กุลย า ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าโครงการ "เราชนะ" ว่า ในส่วนของรัฐวิสาหกิจ หรือลูกจ้างชั่วคราว ที่ได้เงินจากรัฐบาลเป็นรายเดือน ซึ่งทางเราไม่ได้มีฐานข้อมูลครอบคลุมทั้งหมด อาจจะต้องมากดสละสิทธิ์ แต่ไม่รวมลูกจ้างรายวัน หรืออาสาสมัคร อย่าง อสม. ซึ่งเป็นบุคคลที่เข้าร่วมโครงการได้ ทำให้ต้องมีปุ่มสละสิทธิ์ ซึ่งจากข้อมูลที่ได้มา เป็นข้อมูลที่ระบบนำข้อมูลที่มีอยู่ไปคัดกรองเองโดยอัตโนมัติ ฉะนั้นถ้าผ่าน ก็ต้องมาสละสิทธิ์ โดยคนในหน่วยงานของรัฐไม่ได้รับการเลิกจ้างจากหน่วยงานของรัฐ
ในส่วนของ ปุ่มทบทวนสิทธิ์ มีขึ้นเพื่อ หากบุคคลที่ในปี 2562 มีรายได้พึงประเมินเกิน 3 แสนบาท แต่ในปี 2563 ซึ่งเป็นปีที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ทำให้รายได้ลดลง หรือตกงาน ดังนั้นจึงต้องกดทบทวนสิทธิ์ เพื่อให้รัฐไปตรวจสอบข้อมูลทางภาษีอีกครั้ง ว่าเงินได้พึงประเมินน้อยกว่าที่กำหนด คือ 3 แสนบาทแล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่สำคัญจะต้องยื่นแบบแสดงรายการ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของปีภาษี 2563 ผ่านระบบออนไลน์ ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th ภายใน 7 วัน นับถัดจากวันที่กดปุ่มทบทวนสิทธิ์ แต่ต้องไม่เกินวันที่ 8 มี.ค. 64 เพื่อที่จะนำมาเปรียบเทียบ ว่าเงินได้ไม่เกิน 3 แสนบาทจริงๆ หลังจากนั้นกระทรวงการคลังจะตรวจสอบคุณสมบัติอีกครั้ง และจะประกาศผลการทบทวนสิทธิให้ทราบในวันที่ 19 มี.ค. 64
อย่างไรก็ตาม ถ้ามีการตรวจย้อนหลังแล้วพบว่า บุคคลไหนที่ไม่เข้าเกณฑ์ แต่ได้รับเงินช่วยเหลือ จะมีการเรียกเงินคืน
ขณะที่ วันนี้ (22 ก.พ.) ประชาชนกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ และกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน สามารถไปนำบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดไปลงทะเบียนเราชนะ ได้ที่ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ทุกสาขา รวมถึงจุดให้บริการพิเศษของธนาคารกรุงไทย
นอกจากนี้ กรมสรรพสามิต ได้มอบหมายให้สำนักงานสรรพสามิต ภาคที่ 1-10 และสำนักงานสรรพสามิตทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ผ่านทางงานประชุมระบบทางไกล Video Conference ให้ดำเนินการเปิดจุดบริการลงทะเบียนโครงการ “เราชนะ” สำหรับผู้ไม่มี Smartphone และกลุ่มผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ณ สำนักงานสรรพสามิต ภาคที่ 1-10 และสำนักงานสรรพสามิตทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ถึง 5 มีนาคม 2564 (วันและเวลาราชการ) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการลงทะเบียน
No comments:
Post a Comment