ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งประเด็นดราม่ามากเลยๆจ้า หลังสาวคนหนึ่งบุกานแต่งสามี งาานี้คนพาไปบุกนั้น คือแม่สาวมีนั่นเอง ต้องบอกเลยว่าแซ่บสุดๆ
จากนั้น ทางด้านภรรยาหลวงได้มีการฟ้องศาล เรียกค่าทดแทนจากฝ่ายหญิง 3 แสนบาท และทาง พมจ.ชัยนาทได้ลงพื้นที่ให้กำลังใจ เยียวยาจิตใจคนในครอบครัว เนื่องจากห่วงจิตใจลูก 2 คน ของทั้งคู่ ต่อมามีชาวเน็ตไปพบข้อความการโพสต์ที่มีภาพเจ้าสาว ระบุข้อความเชิงข่มขู่ว่า จะฟ้องกลับฝั่งภรรยาหลวง ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างก็แสดงความเห็นด่าทอทั้งคู่ และย้อนกลับว่าจะฟ้องเรื่องอะไร ในเมื่อภรรยาหลวงมีสิทธิตามกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามภาพและข้อความที่ปรากฏยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเป็นการโพสต์จากเจ้าตัวจริงหรือไม่
ล่าสุตด้านร.ต.ต.สมจิต พ่อของเจ้าบ่าว เปิดเผยว่า จนกระทั่งวันนี้ ตนเองและทางครอบครัวก็ยังไม่มีใครติดต่อลูกชายได้ เพราะโทรศัพท์ไปก็ไม่สามารถติดต่อได้ ตนพยายามโทรศัพท์ไปหาทั้งช่วงเช้า และช่วงเย็นของทุกวัน 5 วันแล้ว ยอมรับว่าเป็นห่วงสภาพจิตใจของลูกชายมาก ทั้งเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ จะอยู่อย่างไร กินอย่างไร ทุกวันนี้ลูกชายก็ยังเป็นเด็กในสายตาตนเองเสมอ ถึงแม้จะมีกระแสข่าวว่าลูกชายไปอยู่ที่แฟลตบ้าง แถวตลาดบ้าง แต่ตนเองก็ถามคนรู้จักที่อยู่แฟลตก็ยังไม่มีใครพบ
ทั้งนี้ ตนอยากให้ลูกชายติดต่อกลับมาหาบ้าง จะได้ช่วยกันหาทางออกกับปัญหาที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าทางบ้านพร้อมให้อภัยเสมอ เพราะอย่างไรก็เป็นลูกของพ่อ ส่วนสภาพจิตใจหลานสาวคนเล็ก อายุ 5 ขวบ ขณะนี้ก็บ่นคิดถึงพ่อตลอด เมื่อดูรายการที่พ่อพาลูกไปเที่ยว ก็จะถามตลอดว่าเมื่อไรพ่อจะพาไปเที่ยวอีก ตนเองก็ได้แต่บอกหลานว่าให้รอก่อน เดี๋ยวพ่อก็กลับมา ส่วนลูกชายจะเลือกฝ่ายไหน อย่างไร ตนเองไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน
ตนเองยังยังให้ลูกชายเป็นตำรวจต่อ เพราะตนเองก็เป็นตำรวจ แต่ก็กังวลถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นอาจจะส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานตำรวจ เพราะอาชีพตำรวจก็เป็นอาชีพที่ตนเองรัก อยากฝากถึงลูกว่าอยากให้ติดต่อกลับมาหาบ้าง จะได้พูดคุยกัน ไม่รู้ว่าลูกจะเครียดแค่ไหน แต่ครอบครัวก็พร้อมให้กำลังใจเสมอ และพ่อก็รักลูก
บ้านของเจ้าสาว พบเพียงญาติของเจ้าสาว ระบุสั้น ๆ ว่า ตนเองไม่รู้รายละเอียดเลย เพียงแต่ครอบครัวของเจ้าสาวจ้างมาเฝ้าบ้านเท่านั้น และตัวเจ้าสาวก็ไปเที่ยวหลายวันแล้ว ไม่มีใครอยู่ และขอปฏิเสธการตอบคำถามทั้งหมด
นางแมว (นามสมมติ) อายุ 60 ปี คนสนิทกับครอบครัวเจ้าสาว เปิดเผยว่า ตนเองไม่เจอตัวเจ้าสาวอีกเลย ตั้งแต่เกิดเรื่องมา 5 วันแล้ว ตนเคยพูดคุยกับครอบครัวเจ้าสาวผ่านทางญาติของเจ้าสาว ยอมรับว่าเจ้าสาวมีความเครียดมาก ไม่อยากจะทำอะไรทั้งสิ้น ร้องไห้จนตาบวม บางครั้งก็มีการตัดพ้อคิดสั้นด้วย และไม่คิดว่าเรื่องจะเกิดขึ้นใหญ่โตถึงเพียงนี้
และจากการถูกสังคมประณามจึงต้องไปอยู่ต่างจังหวัดสักพัก แต่ตนเองก็ไม่ทราบว่าไปอยู่ที่จังหวัดใด ยอมรับว่าเห็นใจฝ่ายเจ้าสาวและเจ้าบ่าวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และวอนสังคมอย่าซ้ำเติมอีก เพราะคนเรามีสิทธิ์ผิดพลาดได้ อยากให้กำลังใจให้เจ้าสาว สู้ ๆ
หลังจากนั้นทีมข่าวเดินทางไปยังร้านทองของห้างสรรพสินค้า ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยนาท ที่เจ้าสาวเคยทำงานอยู่ พนักงานร้านทอง เปิดเผยว่า ส่วนตัวแล้วในฐานะเพื่อนร่วมงาน เจ้าสาวก็มาทำงานที่ร้านทองนานแล้ว จากการพูดคุยกับเป็นคนนิสัยดี เป็นคนน่ารักมาก ชอบช่วยเหลือแบ่งปันกับเพื่อนร่วมงานรวมถึงน้อง ๆ ที่ร้านทองเสมอ ก่อนจะมีงานแต่งงาน เจ้าสาวยังได้มีการชวนเพื่อนร่วมงานไปด้วย แต่ก็ไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น และมาเห็นภาพไลฟ์ของภรรยาหลวงในเฟซบุ๊กภายหลัง
หลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีการทักไปพูดคุยกับเจ้าสาวบ้างแล้ว ให้กำลังใจ แต่ล่าสุดวันนี้ก็ยังไม่มีเพื่อนร่วมงานคนใดติดต่อเจ้าสาวได้ ส่วนตัวอยากให้กำลังใจและไม่อยากให้คิดมาก แต่ส่วนรายละเอียดในกรณีที่เกิดขึ้น ตนไม่ทราบว่ามีความเป็นมาอย่างไร
No comments:
Post a Comment