กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการ คุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรืออย. แถลงข่าวผลการทลายแหล่งผลิตและจำหน่ายครีมเถื่อนรายใหญ่ 4 จังหวัด หลังจากที่มีคนออกมาโฆษณาว่าครีมกวนเขมรฝาแดง ใช้ผิวขาวใส มีออร่า มีการรีวิวทาง Tik Tok กันอย่างแพร่หลายในขณะนี้ ทำให้ตำรวจ ปคบ. ได้ทำการสืบค้นข้อมูล จนพบสถานที่ลักลอบจำหน่ายครีมเถื่อนดังกล่าว และได้ขยายผลไปยังแหล่งลักลอบผลิต จนสามารถทลายแหล่งผลิตและจำหน่ายรายใหญ่ได้ใน จ.ฉะเชิงเทรา จ.สระแก้ว จ.ชลบุรี จ.พระนครศรีอยุธยาสามารถยึดของกลางได้ทั้งหมด เป็นครีมสำเร็จพร้อมจำหน่าย 523 ถุง ครีมกวนเขมรฝาแดง 1,989 กระปุก วิตามีนซี 30 หลอด ครีมรอบรรจุ 80 กิโลกรัม และอุปกรณ์การผลิต มูลค่าสูงถึง 500,000 บาท
พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นคือ นายโจ ผลิตที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว แล้วส่งต่อไปหาแม่ค้ารายใหญ่ที่ จ.ชลบุรี และ จ.พระนครศรีอยุธยา
นายโจ ผู้ต้องหา ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนผลิตครีมกวนเขมรฝาแดงจริง เริ่มทำมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ไปซื้อครีมกวนของแท้มาจากเขมร แล้วเอาส่วนผสมอื่นๆที่ทำให้ผิวขาวมากวนใส่เพิ่ม โดยไม่มีสูตรตายตัว ซึ่งสารประกอบเหล่านี้ ประกอบด้วยโลหะหนักที่เป็นอันตรายต่อชีวิต
แรงจูงใจในการทำแบบนี้ นายโจ ผู้ต้องหาบอกว่า ต้นทุนถูกมาก แต่ได้กำไรเยอะ และมีความต้องการในโลกออนไลน์สูงขายได้ตลอด กระปุกเล็กราคา 120 บาท กระปุกใหญ่ราคา 290 บาท ต้นเพียงแค่ กระปุกละ 20 ถึง 30 บาทเท่านั้น ขอเตือนแม่ค้าทุกคนให้หยุดขายครีมกวนลักษณะแบบนี้ เพราะเป็นอันตรายต่อคนอื่น อาจส่งผลถึงตาย หากถูกจับได้มีอัตราโทษสูง
ด้านเภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการ อาหารและยา เปิดเผยว่า ครีมเถื่อนที่ยึดได้ทั้งหมด ไม่มีเลขจดแจ้ง เป็นครีมที่ผิดกฏหมาย ทำการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่า มีสารอันตรายปะปนอยู่ เช่น สารปรอท, ไฮโดรวิโนน, กรดวิตามีนเอ, สเตียรอยด์ หากใช้ครีมนี้บ่อยครั้งจากผิวหน้าขาวในช่วงแรก ต่อไปผิวหน้าจะดำ ผิวบางลง แพ้แสงแดด แพ้แสงไฟได้ง่าย ผิวแตกลายถาวร มีโอกาสเป็นมะเร็งสูง ทำให้เกิดไตอักเสบ ส่วนใหญ่พบขายอยู่ที่ตลาดนัดตามต่างจังหวัด และตลาดนัดตามชายแดน อยากเตือนประชาชนว่าครีมชนิดนี้อันตรายอย่างยิ่ง และอย่าคิดลองใช้เด็ดขาด ในอดีตมีผู้ที่เสียชีวิตมาแล้ว
การทลายและจับกุมผู้ผลิตครีมเถื่อนในครั้งนี้ ตำรวจจับผู้ต้องหาคือนายโจ และรวบผู้ต้องสงสัยได้อีก 3 คน และกำลังทำการขยายผลเพื่อเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนต่อไป เบื้องต้นตำรวจปคบ.แจ้งข้อหา ผิด พ.ร.บ.เครื่องสำอาง ปี 2558 ขายเครื่องสำอางที่ไม่ได้จดแจ้งและไม่มีฉลาก โทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากตรวจพบสารห้ามใช้ในครีมจะมีโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.
No comments:
Post a Comment