เมื่อวานนี้ (15 ก.พ.64) ทางกรุงไทยได้เปิดให้ประชาชน กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต และผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง อาทิ ผู้สูงอายุ ผู้พิ กา ร ทุพพลภาพ ผู้ป่ว ยติดเตียงที่ไม่สามารถเดินทางไปลงทะเบียนเองหรือเดินทางไปใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ที่ได้รับผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ได้ เดินทางไปลงทะเบียนเราชนะที่กรุงไทยเป็นวันแรก ซึ่งก็พบว่าแทบจะทุกจังหวัด มีประชาชนเดินทางไปลงทะเบียนกันจนล้น
ประกาศดังกล่าว
จนกระทั่งทางกรุงไทยได้นำกระเช้าไปมอบให้แก่คุณยายดังกล่าวพร้อมกล่าวขอโทษ และลงทะเบียนเราชนะให้แก่คุณยายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางกรุงไทยก็ได้ออกหนังสือชี้แจง ถึงกรณีคุณยายดังกล่าว ว่าเจ้าหน้าที่ใช้เสียงดังเกินไป เนื่องจากมีประชาชนมาลงทะเบียนจำนวนมากและเจ้าหน้าที่มีจำนวนน้อยมาก
ล่าสุดเพจ drama-addict ได้โพสต์ข้อความของเจ้าหน้าที่กรุงไทยรายหนึ่ง ได้ inbox ข้อความมา พร้อมทั้งเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นว่า
เราในฐานะที่เป็นพนักงาน กรุงไทยค่ะ เราแค่อยากเล่าให้แอดฟังนะคะ ธนาคารกรุงไทยก็เป็นแค่หน่วยงานนึงที่รับนโยบายมาจากรัฐ พวกเราเป็นเพียงพนักงานที่ต้องทำตามคำสั่งค่ะแต่เราอยากให้มองอีกมุมนึง ตั้งแต่มีนโยบายที่ออกมามากมาย ตั้งแต่ "โครงการชิมช้อปใช้"พวกเราพนักงาน ต้องออกตลาดเพื่อเชิญชวนร้านค้ามาเข้าร่วมโครงการ และตอนนั้นร้านค้าต่างๆ ก็ไม่ได้ให้ความสนใจ ซึ่งพวกเราก็ต้องเชิญชวนร้านค้ให้ครบตามเป้าหมายของรัฐโครงการ เราไม่ทิ้งกัน พนง.ธ กรุงไทย ต้องลงพื้นที่ไปทบทวนสิทธิให้แก่ประชาชน ซึ่งตอนนั้นcv-19กำลังแพร่หนัก พวกเรากลัวโควิดกันมาก แต่ก็ต้องลงพื้นที่ ทำหน้ที่เป็นผู้พิทักษ์เพื่อทบทวนสิทธิ์ให้กับชาวบ้าน
โครงการ คนละครึ่ง ทั้งการต้องลงพื้นที่หาร้านคำเข้าร่วมโครงการ ทั้งการยืนยันตัวตนให้กับผู้ที่ได้ลงทะเบียนไปแล้ว ในสถานะการณ์ที่cv-19แพร่ ในช่วงที่หน่วยงานอื่นๆ เค้า work form home แต่พวกเราต้องออกมาทำหน้าที่ทุกวัน
จนมาถึงโครงการเราชนะในวันนี้ แอดรู้มั้ยคะว่า สาขานึง จะมี พนง.อยู่แค่ประมาน 10 คนเองค่ะ บางส่วนต้องถูกแบ่งไปช่วยในจุดบริการที่ตั้งอยู่ในหน่วยงานของรัฐ และพวกเราก็ยังต้องทำงานประจำวันด้วย การที่ พนง แค่ 10 คน จะรับมือกับประชาชนเป็นร้อยเป็นพัน มันต้องมีข้อผิดพลาดกันบ้างค่ะ เราเข้าใจค่ะว่า อาจจะมี พนง.บางคนที่อาจจะควบคุมอารมณ์ไม่ได้จนแสดงพฤติกรรมที่ไม่ดีออกไปบ้าง ทุกวันนี้พวกเราก็กลัวcv-19เหมือนกับคนอื่นๆ นะคะ จาก
ประสบการณ์ที่ได้ลงพื้นที่เป็นผู้พิทักษ์ทบทวนสิทธิให้ประชาชนในโครงการเราไม่ทิ้งกัน เมื่อเราได้เห็นรอยยิ้มของชาวบ้น เมื่อเขาได้รับความช่วยเหลือ เรารู้สึกมีความสุขมากค่ะ. ซึ่งก็หวังว่าในครั้งนี้ ทุกคนจะได้บความช่วยเหลืออีกครั้งค่ะ และยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของรอยยิ้มในครั้งนี้อีกครั้งค่ะ
ขอบคุณ drama-addict
No comments:
Post a Comment