โครงการคนละครึ่งที่รั ฐบ าล ได้เริ่มนำมาใช้เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของคนในประเทศ เพื่อช่วยทดแทนร ายได้ที่หายไป
จากการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากนั้น มีคนที่ได้รับสิทธิ์ในโครงการคนละครึ่ง
ทั้งสองเฟสแรกรวม 15 ล้านคน ซึ่งใช้งบประมาณรวมสองเฟสกว่า 5.2 หมื่นล้านบ าท
เนื่องจากโครงการคนละครึ่งที่ผ่านมา กระทรวงการคลัง กำหนดให้คนไทยที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรั ฐ
สามารถลงทะเบี ยนเพื่อรับสิทธิ์ได้ แต่ไม่เกิน 10 ล้านสิทธิ์ โดยจะได้รับเงิ นเยี ย วย าช่วยเหลือจากรั ฐคนละ 3 พันบ าท
ซึ่งรั ฐต้องใช้งบในโครงการนี้ 3 หมื่นล้านบ าท แต่อย่างไรก็ตามเกิดปรากฏการณ์ที่คนแห่เข้ามาลงทะเบี ยนเป็นจำนวนมาก
จนบ างครั้งทำให้ระบบของกรุงไทยล่ม และถูกวิจ ารณ์จากพรรคการเมืองฝ่ายค้านว่า
โครงการประเภทนี้ทุกคนในประเทศควรได้รับสิทธิ์ ไม่ใช่ให้ต้องแย่งกันเช่นนี้
ดังนั้น ต่อมารั ฐบ าลได้ตัดสินใจเพิ่มสิทธิ์ในโครงการนี้อีก 5 ล้านสิทธิ์ โดยให้เงิ นช่วยเหลือคนละ 3.5 พันบ าท
และเพื่อให้เ กิดความเท่าเทียม รั ฐจึงเพิ่มเงินให้กับคนที่ได้รับสิทธิ์ในเฟสแรก 10 ล้านคน อีกคนละ 500 บ าท
โดยเฟสสองนี้ใช้งบ 2.25 หมื่นล้านบ าท ซึ่งการใช้จ่ายทั้งหมดจะผ่านแอพลิเคชั่นเป๋าตังของกรุงไทย
โดยการใช้จ่ายในทุกครั้งรั ฐจะออกให้ 50% ของการใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 150 บ าทต่อวัน
โครงการคนละครึ่งเฟสสามที่อยู่ในระหว่างการพิจารณานี้ จะพย าย ามขย ายจำนวนคนที่จะได้รับสิทธิ์ให้ได้มากกว่า 15 ล้านคน
ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับโครงการเร าช นะ ที่เป็นโครงการเยี ยวย าผลกระทบที่รั ฐบ าลให้เงิ น 7 พันบ าท
ใส่กระเป๋าเ งินอิเล็กทรอนิกส์แก่ประชาช นที่ลงทะเบี ยนและมีคุณสมบัติที่กำหนด เช่น ต้องไม่เป็นผู้มีเงิ นได้พึ่งประเมินเกินกว่า 3 แสน บ า ทต่อปี
และไม่เป็นผู้มีเ งินในบัญชีเงินฝากเกินกว่า 5 แสนบ าท ซึ่งโครงการเร าช นะครอบคลุมคน 33 ล้านคน
สำหรับมาตรการคนละครึ่งในเฟสที่สามนี้ กระทรวงการคลังมีแนวคิดที่จะเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการและเปิดกว้างสำหรับคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ
โดยคนที่เคยเข้าร่วมโครงการแล้ว ไม่จำเป็นต้องมาลงทะเบี ยนอีก ทำให้คนที่คาดว่าจะได้รับสิทธิ์จะมากกว่า 15 ล้านคนและ
เม็ดเงิ นที่ใช้จะต้องมีมากกว่าที่ผ่านมา แต่ยังไม่สรุปว่า รั ฐจะจ่ายเงิ นให้ต่อรายจำนวนเท่าเดิมหรือมากกว่า
No comments:
Post a Comment