เด็กชาย มาเฝ้าพ่อหน้าห้องห้องไอซียู 4 วัน มีเงินติดตัว 50 บาท - Yakdung Khaw

สดๆร้อนๆ

Friday, July 19, 2019

เด็กชาย มาเฝ้าพ่อหน้าห้องห้องไอซียู 4 วัน มีเงินติดตัว 50 บาท



วันที่ 19 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Kittipong Suwannapruek ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของหนูน้อยคนหนึ่งที่มาเฝ้าพ่อโดยระบุข้อความว่า ต้องการช่วย ไม่ได้ต้องการชื่อเสียง #ฝากแชร์ให้ถึงญาติน้อง ตามหาญาติของน้องหนึ่ง ยุชั้นป.6 โรงเรียนบ่อน้ำร้อน เด็กดีมาก น่ารัก แต่ไม่ค่อยกล้าพูด อาจจะเพราะเกรงใจ ซึ่งผมก็ถามว่าน้องมากับคัย อยู่กับไค น้องบอกมาเฝ้าพ่อ ไม่มีญาติ แม่แยกทางกับพ่อ ตอนผมเกิดแม่เอาผมไปทิ้งไว้ที่วัด พ่อไปเอากลับมาอยู่ด้วย อาศัยอยุ่ในบ้านพักคนงานในโรงไม้ ผมอยู่กับพ่อสองคน วันนี้พ่อป่วยหนัก รักษาตัวในห้องไอซียู ยอมขาดเรียนมาเฝ้าพ่ออยุ่4วันแล้ว กินข้าวจากอาหารผู้ป่วยของโรงพยาบาล ซึ่งอาการพ่อตอนนี้ยังไม่ทราบ แต่รู้จากพยาบาลว่าพ่ออาการหนัก ปลุกก็ไม่ตื่น ต้องสอดสายช่วยหายใจ อาการเป็นไงผมไม่มั่นใจนะครับ ที่โรงพยาบาลกาญจนดิษฐ์ สอบถามข้อมูลเบื้องต้น น้องมีเงิน 50 บาทไว้ซื้อข้าว กับ200กว่าบาท ไว้สำหรับค่ารักษาพ่อ ผมฟังแล้วน้ำตาลุกผู้ชายเอ่อนองเลย ผมว่าชีวิตผมแย่แล้ว เจอสิ่งที่แย่กว่า พุดไม่ออกครับ ผมช่วยได้เท่าที่ช่วย ผมให้น้องไว้กินข้าว 200และแม่ผมทำกับข้าวมาให้ก็แบ่งให้น้องกิน ซื้อขนม นมให้เผื่ออยากกิน ส่วนค่ารักษา ยังไม่รุ้ว่าเท่าไรแต่ผมก็จะช่วยให้ดีที่สุด ขอบคุณเพื่อนๆที่ทำงานพ่อน้อง ที่ซื้อของมาเยี่ยม มาฝาก แม่น้อง ชื่อนางสุรีรัตน์ กลิ่นกุหลาบ พ่อน้องชื่อ นายชาติธนงค์ ยอดดำเนิน ผมเป็นกำลังใจให้อีกแรง

แก้ไขโพสวันที่19/9/19 เวลา 06:42น. #ตอนนี้ญาติทราบเรื่องแล้วนะครับ ขอบคุณทุกๆการแชร์ ส่งต่อเรื่องราวดีๆให้คนอื่นได้รู้ ซึ่งญาติกำลังเดินทางมาหาน้องครับ น้องมีญาติครับ แต่น้องไม่รุ้ว่ามี เพราะพ่อไม่เคยบอกว่าญาตชื่อไร อยุ่ที่ไหน คุณพ่อไม่มีโทรศัพ์ทำให้ติดต่อกันลำบาก ส่วนผุ้ป่วยตอนนี้ถูกส่งตัวจากรพ.กาญจนดิษฐ์มาที่ รพ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจากอาการไม่ดีเท่าที่ควร ตึกไหน อาคารไหน ขออนุญาตไม่แจ้งนะครับ อยากให้คนไข้ได้พักผ่อน ส่วนเรื่องของการเปิดบช.ให้น้อง หรือช่วยเหลืออื่นๆ ผมขอให้เป้นการตัดสินใจของทางญาตินะครับ ผมขอไม่เกี่ยวข้องกับส่วนนี้นะครับ ซึ่งตอนนี้น้องยังไม่มีบช.นะครับ ระวังเรื่องการโอนเงินกันนิดนะครับ ขอบคุณทุกๆท่านที่ช่วยกันแชร์ และทุกๆกำลังใจครับ และขอบทุกท่านที่ให้การช่วยเหลือ



โพสต์ดังกล่าว

ภาพเหตุการณ์



ภาพจากเฟซบุ๊ก Kittipong Suwannapruek



ข้อมูลและภาพจากเฟซบุ๊ก Kittipong Suwannapruek

No comments:

Post a Comment