สุดช้ำ ครูตีหัวเด็กป.1 แตก แต่ให้โกหกโดนตะปูตำ แลกเงินประกัน 300 - Yakdung Khaw

สดๆร้อนๆ

Monday, July 22, 2019

สุดช้ำ ครูตีหัวเด็กป.1 แตก แต่ให้โกหกโดนตะปูตำ แลกเงินประกัน 300



จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพส์ตเรื่องราวพฤติกรรมของครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ที่ใช้ความรุนแรงกับนักเรียน โดยระบุว่า  “กรณีศึกษานะคะ ครูให้เด็กโกหกเพื่อแลกกับเงินประกันอุบัติเหตุ 300 บาท ทั้งที่เกิดจากฝีมือครูตีเด็กจนหัวแตก เข้าใจว่าเด็กก็ต้องมีซนบ้าง 2 วันผ่านไปผู้ปกครองยังเข้าใจว่าเด็กได้แผลจากอุบัติเหตุ ที่มีใบรับรองแพทย์กับผ้าปิดแผลที่หัวเด็กเดินมาหาผู้ปกครอง มารอรับที่โรงเรียน เสื้อนักเรียนก็ไม่ได้ใส่ คราบเลือกติดมือเด็ก ครูไม่มาส่งเด็กเพื่อบอกกล่าวผู้ปกครอง #ความแตกคือเด็กในห้องบอกว่าครูใช้...ฟาดเด็กหัวแตก แล้วพึ่งมาขอโทษ ผู้ปกครองเด็กไม่เข้าใจแล้วจะให้เด็กโกหกผู้ปกครองทำไมว่าหัวตำตะปูในห้องน้ำ หรือนี่คือจรรยาบรรณครู คาใจค่ะเลยไปสัมภาษณ์เด็ก อึ้งเลยคะ” พร้อมโพส์ตภาพบาดแผลของเด็กที่ถูกตีหัว



โพสต์ดังกล่าว

ต่อมาล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับนายประสิทธิ์ คำพันธ์ และนางดำรง คำพันธ์ ปู่ย่าของ ด.ช.เติส (นามสมมุติ) นักเรียนชั้น ป.1 ที่ถูกครูตีหัวแตก ให้ข้อมูลว่า ตอนเย็นของวันที่ 19 กรกฎาคม ย่าเป็นคนไปรับหลานที่โรงเรียน ก็เห็นหลานเดินมาในสภาพหัวแตกเลือดไหล ไม่สวมเสื้อก็ตกใจ จึงถามหลานว่าเป็นอะไรหลานก็ก้มหน้าแล้วตอบว่าชนตะปูในห้องน้ำ ตอนนั้นก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะคิดว่าหลานอาจจะเล่นซนแล้วไปโดนตะปูเอง กระทั่งตกเย็นวันต่อมาเด็กที่เรียนห้องเดียวกันมาบอกว่า น้องเติส ไม่ได้ชนตะปูแต่ถูกครูใช้ไม้เท้าค้ำยันตีหัวแตก ตอนที่เข้าแถวส่งการบ้านในห้อง พอส่งการบ้านเสร็จช่วงที่หันหลังกลับครูก็ใช้ไม้เท้าตีกลางหัว ตอนแรกก็ยังไม่เชื่อจึงตัดสินใจไปสอบถามจากปากครูที่โรงเรียนด้วยตัวเอง กระทั่งครูก็ยอมรับว่าได้ใช้ไม้ตีเด็กจริง ไม่ได้ตั้งใจเป็นการตีเบาๆ เท่านั้นไม่คิดว่าจะถึงขั้นหัวแตก ซึ่งอาจจะไปโดนตรงน็อตที่ล็อกติดกับไม้เท้า หลังจากนั้นครูก็ได้มาหาที่บ้าน พร้อมกันนม 2 กล่อง เพื่อเป็นการขอโทษแล้วก็ไม่ได้พูดคุยอะไรอีกเลย

นายประสิทธิ์ คำพันธ์ ปู่น้องเติส (นามสมมุติ) ยังบอกอีกว่า สิ่งที่เสียใจและติดใจคือครูบังคับให้หลานโกหกผู้ปกครอง เพื่อต้องการจะปกปิดความผิดของตัวเอง จึงรู้สึกเสียใจและรับไม่ได้กับการกระทำของครู จึงยืนยันว่าจะเอาเรื่องถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวซ้ำอีก ที่จริงแล้วหากครูบอกความจริงตั้งแต่วันแรก แล้วแสดงความรับผิดชอบพาหลานไปหาหมอ หรือพามาส่งบ้านด้วยตัวเอง ก็คงจะไม่ติดใจเอาเรื่องเพราะคิดว่าอาจจะพลาดพลั้งกันได้ แต่จนถึงขณะนี้ครูก็ยังไม่ได้แสดงความรับผิดชอบด้วยความจริงใจ และหากทางโรงเรียนหรือครูยังไม่มาแสดงความรับผิดชอบ หรือรับปากว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก ส่วนจะดำเนินการแจ้งความ หรือร้องเรียนกับทางต้นสังกัดต่อไปอย่างไรนั้นก็ต้องหารือกับพ่อแม่ของเด็กอีกครั้ง

No comments:

Post a Comment